ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน48)

ซอกซอนตะลอนไป                           (13 กรกฎาคม 2568)

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน48)

หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

ความขัดแย้งเรื่องการแย่งชิงมัสยิด บาลริ ในเมืองอโยธยา ร้อนแรงในศาล   ขณะเดียวกัน   ภายนอกศาลก็เพิ่มดีกรีความเป็นศัตรูมากขึ้นเรื่อยๆจนนำไปสู่ความแตกหัก   

วันที่ 6 ธันวาคม 1992  กลุ่มคนชาวฮินดูชาตินิยม และพรรคการเมือง BJP ได้ร่วมกันรณรงค์เพื่อเรียกร้องขอวิหารพระรามคืนจากมุสลิม   ในวันนั้น  มีผู้มาร่วมชุมนุนกว่า 150,000 คน


(วิหารพระราม ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยรัฐบาลนเรนทรา โมดี- ภาพจากวิกิพีเดีย)

อารมณ์ที่ร้อนแรงของผู้ชุมนุมทำให้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้  ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งได้บุกเข้าไปทำลายมัสยิด บาบริ  เกิดการปะทะกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 คน  ส่งผลกระทบไปยังประเทศปากีสถาน และ บังคลาเทศ  ที่ชาวมุสลิมได้ออกตระเวณทำร้ายชาวฮินดูเพื่อเป็นการแก้แค้น

ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย

(ต้องการอ่านเรื่องราว การเรียกร้องมัสยิด  บาบริกลับคืนมาเป็นวิหารของฮินดู   สามารถเข้าไปอ่านในบล็อค “ซอกซอนตะลอนไป” ในเว็บไซต์ whiteelephanttravel.co.th ได้ครับ)

ไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่ระบุว่า   เหตุการณ์ความรุนแรงต่อจากปีนี้เป็นต้นไป   เป็นการเอาคืน และ เป็นการรุกคืบในการก่อการร้ายของปากีสถานหรือไม่ 

เริ่มตั้งแต่วันที่ 12  มีนาคม  1993  หรือหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่มัสยิด บาบรีแค่ 3 เดือน   เกิดการก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ในนครมุมไบ  เมืองหลวงทางด้านเศรษฐกิจของอินเดียที่ตั้งอยู่ในรัฐมหาราษฎระ

วินาศกรรมครั้งนี้เป็นแบบคาร์บอมบ์ต่อเนื่อง 12 ครั้ง   ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 257 คน  และ  บาดเจ็บอีกกว่า 1400 คน

ตำรวจสามารถสืบสวนจนรู้ว่า   การก่อการร้ายครั้งนี้ดำเนินการโดย ดาวูด อิบราฮิม หัวหน้ามาเฟียในมุมไบ  ผ่านทางลูกน้องสองคนของเขาคือ ไทเกอร์ เมมอน และ ยาคุบ  เมมอน ซึ่งเป็นผู้ลงมือ  


(ดาวูด อิบราฮิม- ภาพจากวิกิพีเดีย)

ดาวูด อิบราฮิม  เป็นหัวหน้าเครือข่ายมาเฟียระดับนานาชาติ ที่รู้จักกันในนาม  บริษัท ดี  มีฐานที่ตั้งอยู่ในมุมไบ ปากีสถาน และ  สหรัฐอาหรับเอ็มมิเร็ต   รัฐบาลอินเดียมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเขามีความเชื่อมโยงกับ โอซามา บินลาเดน ผู้นำของกลุ่ม อัลเคดา 

ดาวูด  อิบราฮิม ยังคงหลบหนีการจับกุมของทางการอินเดียอยู่ในต่างประเทศจนทุกวันนี้

การก่อการร้าย และ วินาศกรรมในอินเดียเกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน   รัฐบาลอินเดียได้รวบรวมรายการก่อการร้าย และ วินาศกรรมทั่วทั้งประเทศ นับตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมาซึ่งนับได้กว่าร้อยครั้ง   แต่ผมจะพูดถึงเฉพาะที่กรณีที่เกี่ยวข้องผูกพันโดยตรงกับกรณีแคชเมียร์เท่านั้น


(โรงแรม ทัช มาฮัล พาเลซ ที่ถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี)

26 พฤศจิกายน 2008  เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เมืองมุมไบต้องร่ำไห้   เมื่อผู้ก่อการร้ายชาวมุสลิมจำนวน 10 คน ได้เริ่มก่อการร้ายด้วยการกราดยิง  และ  วางระเบิดตามสถานที่สำคัญทั่วทั้งเมืองมุมไบเกือบ 10 จุด   แต่ที่ยังตรึงตราอยู่ในความรู้สึกของทั่วโลกรู้จักก็คือ  การโจมตีโรงแรมทัช มาฮาล พาเลซ แอนด์ ทาวเวอร์ ของตระกูลตาต้า

การกระทำอันโหดเหี้ยมเริ่มขึ้นในวันพุธที่ 26 พฤศจิกายนจนถึงวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน เป็นเวลา 4 วัน


(โมฮัมหมัด อัจมาล คาซัป – ผู้ก่อการร้ายคนเดียวที่รอดชีวิต-ภาพจากวิกิพีเดีย)

จากปากคำของ อัจมาล คาซัป  ผู้ก่อการร้ายคนเดียวที่รอดชีวิตได้ให้การว่า   พวกเขาเป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้าย  ลาชคาร์ อี ไทบา (LASHKAR-E-TAIBA) ที่ได้รับการสนับสนุนและชักใยจากปากีสถาน

เป็นก่อการร้ายครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของอินเดีย  ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 175 คน  และบาดเจ็บอีกกว่า 300 คน  

ที่สำคัญก็คือ  สร้างผลกระทบให้แก่เรื่องการท่องเที่ยวอย่างมาก  เพราะโรงแรม ทัช มาฮาล พาเลซ เป็นโรงแรมที่นักท่องเที่ยวจากตะวันตกนิยมมาพักกัน  ทำให้เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวทรุดลงทันที

ผมกำลังจะนำทัวร์เจาะลึกอียิปต์แบบ “ทัวร์พรีเมี่ยม” โรงแรมที่พักดี ล่องเรือระดับ 5 ดาว  อาหารดีตามโรงแรม5 ดาว และโปรแกรมชมครบครัน  เพียง 3 ทริปในฤดูกาลนี้  คือ ตุลาคม , ธันวาคม และ กุมภาพันธ์ ปีหน้า  ทริปละ 15 ท่านเท่านั้น  ทุกทริปมีตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย   ออกเดินทางแน่นอน    สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 0885786666 หรือ LINE ID – 14092498 

               พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .