ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน52)

ซอกซอนตะลอนไป                           (10 สิงหาคม 2568)

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน52)

หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

ในขณะที่   เจ้าหน้าที่ของรัฐและส่วนกลาง ต่างก็ทำหน้าที่ในการควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ขยายออกไปมากกว่านี้   รัฐบาลของนเรนทรา โมดี ก็วางแผนการตอบโต้พวกผู้ก่อการร้ายอย่างเงียบๆ

               หลังจากภาวะเคอร์ฟิวที่ยาวนาน 53 วันถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม  ต่อมาวันที่ 8 พฤศจิกายน 2016  รัฐบาลอินเดียก็ประกาศเลิกใช้ธนบัตรใบละ 500 และ 1000 รูปีแบบฉับพลันทันใด  ซึ่งเป็นธนบัตรปลอมจำนวนมากที่ผู้ก่อการร้ายปากีสถานพิมพ์ขึ้นมาใช้ในการก่อการร้ายในอินเดีย  

เป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ที่ปากีสถานใช้หล่อเลี้ยงขบวนการก่อการร้ายในแคชเมียร์ของอินเดีย  ซึ่งเห็นผลได้ในไม่ช้า 

การก่อการร้ายเริ่มลดลงในทันที  แต่เรื่องร้ายๆยังไม่จบแค่นั้น 

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019  หลังการตายของบูร์ฮาน พานี  และ การยกเลิกธนบัตรใบละ 500 และ 1000 รูปีประมาณ 3 ปี กลุ่มก่อการร้ายก็สร้างความหวาดหวั่น สั่นสะเทือนแคชเมียร์อีกครั้ง   ด้วยการใช้เด็กหนุ่มคนหนึ่งทำขับรถยนต์ที่บรรทุกระเบิดจำนวนมาก พุ่งชนขบวนรถบัสของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองศรีนาการ์บนถนนไฮเวย์สาย 44 ในจังหวัดพัลวามา  ในแคชเมียร์


(เจ้าหน้าที่ระดับสูงของตำรวจแสดงความเคารพต่อตำรวจในหน่วยที่เสียชีวิตจากการโจมตีที่พัลวามา – ภาพจาก THE HINDU)

การโจมตีในวันนั้น   ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิตไป 40 นาย

แต่ที่สำคัญก็คือ   ขบวนรถที่ทำการเคลื่อนย้ายกำลังพลในวันนั้นประกอบไปด้วยรถจำนวน 78 คัน  และ เจ้าหน้าที่ทั้งหมด 2500 คน   ถือว่าเป็นขบวนที่ใหญ่มาก   ยิ่งกว่าการตบหน้าระบบการรักษาความปลอดภัยของอินเดียด้วยเท้าทีเดียว

หลังจากนั้น    หน่วยก่อการร้ายที่เรียกว่า ไจช์ อี โมฮัมหมัด (JAISH-E-MOHAMMED) ที่มีฐานอยู่ในปากีสถานก็ออกมาประกาศว่า  เป็นผลงานของตัวเอง

ผู้ก่อการร้ายกลุ่ม ไจช์ อี โมฮัมหมัด ซึ่งชื่อของมันแปลว่า  ทหารของโมฮัมหมัด เป็นกลุ่มที่มีเป้าหมายหลักก็คือ  ต้องการจะแยกดินแดนแคชเมียร์ในส่วนที่อยู่กับอินเดียให้กลายมาเป็นของปากีสถาน 

งานนี้   รัฐบาลของ นเรนทรา โมดี เสียรังวัดไปเยอะทีเดียว   กระแสความโกรธแค้นของคนในชาติเหมือนพายุที่โหมกระหน่ำเข้าไปยังกองไฟที่คุกรุ่น   หากนายกรัฐมนตรีอินเดีย จะแก้ปัญหาด้วยการเจรจาทางการทูต   ย่อมไม่เป็นผลดีแน่นอน

โดยไม่รอช้า   กองทัพอากาศของอินเดียเปิดฉากการบุกโจมตีด้วยการทิ้งระเบิด ลงในพื้นที่ที่ยืนยันแล้วว่า   เป็นแคมป์ฝึกอาวุธ และ  ค่ายฝึกการก่อการร้ายของ กลุ่มไจช์ อี โมฮัมหมัดที่อยู่ใกล้เมืองบาลากอต(BALAKOT) ในเขตแคชเมียร์ที่ปกครองโดยปากีสถาน(POK) ทันทีในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2019

หรือ 12 วันหลังการเหตุการณ์โจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายที่พัลวามา


(แผนที่แสดงให้เห็นหมู่บ้านบาลากอต ที่อยู่ห่างจาก เมืองศรีนาการ์ ของแคชเมียร์อินเดียไม่มากนัก – ภาพจาก M-MYINDIA)

การโจมตีครั้งนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก   เพราะแคมป์ฝึกผู้ก่อการร้ายอยู่ในเขตของปากีสถานตามเส้นแบ่งดินแดนที่เรียกว่า  LINE OF CONTROL ที่ถือเอาจากแนวเส้นหยุดยิงของอินเดียและปากีสถานในปี 1949 ตามคำสั่งของสหประชาชาติ    แม้ว่าจะยังไม่เป็นที่ยอมรับของอินเดียก็ตาม

การโจมตีดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2019  เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ชาวอินเดีย  ที่แสดงให้เห็นว่า   รัฐบาลของเขาเอาจริงในการขจัดพวกก่อการร้ายที่เป็นภัยของประเทศ

การโจมตีมีผลอย่างไร  อ่านต่อสัปดาห์หน้าครับ

ผมกำลังจะนำทัวร์เจาะลึกอียิปต์แบบ “ทัวร์พรีเมี่ยม” โรงแรมที่พักดี ล่องเรือระดับ 5 ดาว  อาหารดีตามโรงแรม 5 ดาว และโปรแกรมชมครบครัน  เพียง 3 ทริปในฤดูกาลนี้  คือ ตุลาคม , ธันวาคม และ กุมภาพันธ์ ปีหน้า  ทริปละ 15 ท่านเท่านั้น  ทุกทริปมีตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย   ออกเดินทางแน่นอน    สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 0885786666 หรือ LINE ID – 14092498 

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .