ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน45)

ซอกซอนตะลอนไป                           (22 มิถุนายน 2568)

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน45)

หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               กรกฎาคม ปี 1988  กลุ่มจามมู แคชเมียร์ ลิเบอเรชั่น ฟร้อนท์  ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองติดอาวุธก่อการร้ายในแคชเมียร์ ได้ก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนเพื่อให้แคชเมียร์แยกตัวเป็นอิสระออกมาจากอินเดีย

ที่ร้ายก็คือ  เริ่มมีการการสังหารชาวฮินดูที่มีบทบาทสำคัญในแคชเมียร์   เพื่อให้ชาวฮินดูคนอื่นๆได้ดูเป็นตัวอย่าง  เหมือนการเชือดไก่ให้ลิงดู

               ชาวฮินดูคนแรกที่เป็นเป้าสังหารก็คือ ทิคา ลัล ทัปลู (TIKA LAL TAPLOO)  ทนายความ และ ผู้นำที่มีความสามารถมากของพรรคภารติยะ ชันนะตะ(BHARATIYA JANATA PARTY)


(ทิคา ลัล ทัปลู อดีตผู้ของพรรคภาระติยะ ชันนะตะ – ภาพจาก PLNDIA)

เขาถูกสังหารโดยกลุ่มจามมูและแคชเมียร์ ลิเบอร์เรชั่น ฟร้อน ภายในบ้านของตัวเองที่เมือง ศรีนาการ์  เมื่อวันที่ 14 กันยายน ปี 1989 ต่อหน้าผู้คนจำนวนมากโดยที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถจับตัวฆาตรกรได้

               ทิคา ลัล ทัปลู เป็นผู้นำทางความคิดของชาวฮินดูแคชเมียร์  จึงเป็นการสังหารที่สร้างแรงกระเพื่อมอย่างรุนแรงในกลุ่มประชาคมชาวฮินดูอย่างมาก

               ความหวาดกลัวเริ่มฝังรากลึกในหมู่ชาวฮินดูในแคชเมียร์

               นำไปสู่การอพยพครั้งใหญ่ของชาวฮินดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวฮินดูชั้นปัญญาชนจำนวนมากที่เลือกที่จะหนีออกจากแคชเมียร์ เพื่อรักษาชีวิต

ช่วงเวลาต่อเนื่องจากช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 จนถึงทศวรรษที่ 1990  เป็นเวลาที่แสนหดหู่อย่างยิ่งของชาวฮินดูแคชเมียร์  ที่ต้องเลือกอพยพไปอยู่ในรัฐอื่นของอินเดียที่คิดว่าปลอดภัยกว่า

จำนวนมากที่ไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอก็ขยับไปยังพื้นที่ไม่ไกลนัก  เช่น  เขตจามมู ที่อยู่ทางใต้ของรัฐจามมูและแคชเมียร์  จำนวนมากต้องอาศัยอยู่ในค่ายอพยพสำหรับคนไร้ที่อยู่อาศัย  ซึ่งแน่นอนว่า  ค่อนข้างแออัด และ สกปรก   จากนั้นจึงค่อยหาลู่ทางขยับขยายต่อไป

คนที่มีกำลังทรัพย์พอก็จะเดินทางไปรัฐอื่นๆ  หรือบางคนที่มีญาติอาศัยอยู่ในรัฐอื่นที่พอจะช่วยเหลือได้   ก็เลือกที่จะเดินทางไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย

จำนวนผู้อพยพเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจากช่วงปลาย 1980  หลายหน่วยงานประเมินจำนวนผู้อพยพไม่ตรงกัน  บางหน่วยงานระบุว่า  มีจำนวน 120,000 – 140,000 คน  แต่หน่วยงานราชการลับของอเมริกา หรือ CIA ประมาณว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 300,000 คน

การอพยพครั้งนี้  รู้จักกันในนาม  การอพยพของบัณฑิตแห่งแคชเมียร์ (EXODUS OF KASHMIRI PANDIT)  ซึ่งไม่ต่างจากการอพยพของชาวยิวจากอียิปต์โบราณตามคัมภีร์ไบเบิล

“บัณฑิต” ในความหมายของสังคมฮินดูก็คือ  ผู้มีความรู้  ผู้ได้รับการศึกษา  สืบเชื้อสายมาจากวรรณะพราหมณ์ปัญจา กัวดา  ซึ่งด้วยสถานะของการเป็นวรรณะพราหมณ์   ทำให้บัณฑิตเหล่านี้ได้รับการศึกษาที่ดี และ ลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาพระคัมภีร์ หรือ การศึกษาอื่นๆที่นอกเหนือไปจากนั้น


(สามเมืองสำคัญที่บัณฑิตแห่งแคชเมียร์อพยพไปอาศัย-ภาพจากวิกิพีเดีย)

เมืองที่บัณฑิตเหล่านี้เลือกที่จะย้ายไปอยู่ก็อาทิเช่น   เมืองมุมไบ เมืองหลวงของรัฐมหาราษฎระ  ,  เมืองเดลี เมืองหลวงของประเทศ  และ  เมืองกอลกัตตา ในรัฐเบงกอลตะวันตก เมืองที่ได้รับฉายาว่า  เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม  

โดยที่ผู้คนในเมืองเหล่านี้ต่างก็อ้าแขนรับ เรียกร้องให้บัณฑิตแห่งแคชเมียรย้ายไปอยู่ด้วย   อาทิเช่น  เมืองมุมไบที่มี บาล ธัคเคอร์เรย์ (BAL KESHAV THACKERAY)นักเขียนการ์ตูน และ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองคนสำคัญของรัฐมหาราษฎระ ได้ประกาศชวนเชิญให้ชาวแคชเมียร์ย้ายไปอยู่ด้วย  


(บาล ธัคเคอร์เรย์ – ภาพจากวิกิพีเดีย)

การอพยพของชาวแคชมียร์ในครั้งนี้   ได้สร้างผลกระทบที่เลวร้ายแต่รัฐจามมู และ แคชเมียร์ อย่างไม่เคยมีมาก่อน   และ  อย่างที่ชาวมุสลิมในแคชเมียร์เองก็คาดไม่ถึง

ส่วนจะเป็นเรื่องอะไร  รออ่านในตอนหน้าครับ

ขอเชิญร่วมเดินทางเจาะลึกอียิปต์แบบ “ทัวร์พรีเมี่ยม” พักในโรงแรม 5 ดาว ล่องเรือระดับ 5 ดาว  อาหารดีในโรงแรม และภัตตาคารที่เลือกสรร  โปรแกรมชมครบครัน   บรรยายชมโดยผู้เชี่ยวชาญทัวร์อียิปต์มากว่า 40 ปี และ เป็นผู้เขียนหนังสือไกด์บุ๊ค “อียิปต์-กรีซ-ตุรกี”  ไม่ปล่อยให้เดินชมเอง มีเพียง 3 ทริป คือตุลาคม , ธันวาคม และ กุมภาพันธ์ ปีหน้า  ทริปละ 15 ท่านเท่านั้น  ทุกทริปมีตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย   สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 0885786666 หรือ LINE ID – 14092498 

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .