ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน53)

ซอกซอนตะลอนไป                           (17 สิงหาคม 2568)

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน53)

หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

การโจมตีของกองทัพอากาศอินเดียต่อค่ายฝึกกองกำลังก่อการร้ายที่บาลากอต ในเขตแดนของปากีสถาน  เป็นการโจมตีแบบรวดเร็วฉับไว  มาเร็วจบเร็ว

เป็นการโจมตีทางอากาศของอินเดียครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามระหว่างทั้งสองชาติในปี 1971 ซึ่งเป็นสงครามเพื่อเอกราชของประเทศเกิดใหม่คือ  บังคลาเทศ 

หลังการโจมตีครั้งนั้น  อินเดียออกมาแถลงข่าวว่า  ตนเองประสบความสำเร็จในการทำลายค่ายฝึกสอนผู้ก่อการร้ายในเขตปากีสถาน   


(บาลากอต ซึ่งอยู่ในปากีสถานใกล้พรมแดนอินเดีย(สีเทา)-ภาพจากวิกิพีเดีย)

ขณะเดียวกัน   ปากีสถานก็ออกมาประกาศเช่นกันว่า  เครื่องบินรบของอินเดียทิ้งระเบิดลงในพื้นที่ป่าเนินเขาที่ไม่มีผู้อาศัยในเขตของเมองบาลากอต  และบอกว่า   ตนเองเป็นฝ่ายประสบความสำเร็จในการปกป้องตัวเอง และ สามารถยิงเครื่องบินรบของอินเดียจนตกได้

เป็นลักษณะของสงครามจิตวิทยาต่อกันมากกว่า

การโจมตีทิ้งระเบิดที่บาลากอต ในปี 2019 เพื่อเป็นการตอบโต้การใช้ระเบิดคาร์บอมสังหารหน่วยรักษาความปลอดภัยของอินเดีย  และเป็นการทำลายฐานปฎิบัติการของผู้ก่อการร้ายในดินแดนปากีสถาน   มีผลทำให้ความเคลื่อนไหวของฝ่ายก่อการร้ายเงียบลงไปมากทีเดียว

โดยเฉพาะในรัฐแคชมียร์

จะเห็นว่า   หากประเทศใดๆก็ตามต้องการจะขจัดภัยก่อการร้ายของตัวเอง  ไม่ว่าภัยนั้นจะหนักหนาร้ายแรงขนาดไหน   ก็สามารถปราบปรามลงได้   ถ้าเอาจริง

แต่แผนการของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี จากพรรคภารติยะ ชันนะตะ ไม่ได้หยุดเพียงแค่กำหราบพวกก่อการร้ายตรงชายแดนรัฐแคชเมียร์เท่านั้น    เขามีแผนที่ยิ่งใหญ่  และ  ยากที่จะทำให้สำเร็จรออยู่ในมือแล้ว  

ภารกิจสำคัญที่ว่าก็คือ  การยกเลิกมาตรา 370 ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ  ที่รัฐบาลเนห์รู ของพรรคคองเกรสในอดีตเมื่อเกือบ 70ปีที่แล้วได้วางยาพิษเอาไว้ให้แก่ประเทศอินเดีย


(ราจีฟ คานธี นายกรัฐมนตรีคนสุดท้ายของพรรคคองเกรส จากตระกูลเนห์รู ก่อนถูกสังหาร-ภาพจากวิกิพีเดีย)

แน่นอนว่า  อินเดียภายใต้รัฐบาลเสียงข้างมากจากพรรคคองเกรสที่ครองอำนาจมาตลอดตั้งแต่ปี 1947 เรื่อยมาจนกระทั่ง ราจีฟ คานธี ทายาททางการเมืองคนสุดท้ายของอินทิรา คานธีถูกสังหารในปี 1984  เป็นไปไม่ได้เลยที่จะยกเลิกกฎหมายฉบับนี้  เพราะหากยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ก็เท่ากับว่า  พรรคคองเกรสยอมรับว่าบรรพบุรุษของเขาได้ทำการที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศ

หรือแม้กระทั่งหลังจากปี 1984  ที่รัฐบาลเปลี่ยนหน้าการคุมอำนาจจากพรรคคองเกรส สลับให้พรรคโน้นพรรคนี้ ขึ้นบริหารประเทศเป็นช่วงๆ  ก็ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใดที่คิดจะยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ 

หรืออาจจะคิด  แต่เจอทางตัน

จนพรรคภารติยะ ชันนะ ได้รับฉันทามติจากประชาชนให้เป็นผู้บริหารประเทศโดยมีนายนเรนทรา โมดี เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่การเลือกตั้งสมัยแรกในปี 2014  เขาจึงนำความคิดนี้มาทำให้เกิดผลอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม   หากพรรคภารติยะ ชันนะ ไม่ได้รับฉันทามติให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ในปี 2018  แนวความคิดนี้ก็อาจไม่เกิดก็ได้

เชิญร่วมเดินทางเจาะลึกอียิปต์แบบ “ทัวร์พรีเมี่ยม” โรงแรมดี ล่องเรือระดับ 5 ดาว  อาหารดีตามโรงแรม5 ดาว และโปรแกรมครบครัน   บรรยายชมโดยผู้เชี่ยวชาญทัวร์อียิปต์มากว่า 40 ปี และ เป็นผู้เขียนหนังสือไกด์บุ๊ค “อียิปต์-กรีซ-ตุรกี”  บรรยายชมอย่างละเอียด ไม่ใช่ปล่อยให้เดินดูเอง มีเพียง 3 ทริป คือ  ตุลาคม  , ธันวาคม  และ กุมภาพันธ์ ปีหน้า สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 0885786666 หรือ LINE ID – 14092498 

               พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .