ซอกซอนตะลอนไป (10 มกราคม 2557)
รัฐหลุยส์เซียน่า – ดินแดนพระเจ้าหลุยส์ในอเมริกา
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
หลุยส์เซียน่า(LOUISIANA) เป็นรัฐที่อยู่ภาคกลางตอนใต้ของประเทศสหรัฐเมริกา เป็นดินแดนที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ วัฒนธรรมฝรั่งเศส และ สเปน
(อาณาเขตของดินแดนหลุยส์เซียน่า (สีแดง) ด้านขวาก็คือ อเมริกาในยุคนั้น)
ชื่อของรัฐมีความหมายว่า “ดินแดนของพระเจ้าหลุยส์” ผู้เป็นกษัตริย์ของฝรั่งเศสมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 จากราชวงศ์บรูบอง(HOUSE OF BOURBON)
ท่านผู้อ่านอาจจะงงว่า ทำไม ผมจึงเรียกดินแดนที่อยู่ในอเมริกาในปัจจุบันนี้ว่า เป็นดินแดนของพระเจ้าหลุยส์ ของฝรั่งเศส
อย่างที่เราทราบกันมาแล้วว่า คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส(CHRISTOPHER COLUMBUS) ซึ่งเป็นผู้ค้นภพทวีปอเมริกาใต้เป็นคนแรกนั้น เดินทางมาในนามของ พระนางอิสซาเบล(ISABEL) และ กษัตริย์เฟอร์ดินานด์(FERDINAND) ของประเทศสเปน เมื่อปีค.ศ. 1492
หลังจากนั้น สเปนก็ขยายอาณาเขตการครอบครองออกไปเรื่อยๆ และได้เข้าครอบครองบริเวณที่เป็นรัฐหลุยเซียน่า ตั้งแต่ปีค.ศ. 1763 เรื่อยมาจนกระทั่งปีค.ศ. 1800 สเปนจึงได้มอบดินแดนแห่งนี้ให้แก่ฝรั่งเศส
ไม่ต้องแปลกใจนะครับว่า ทำไมสเปนจึงมอบหลุยส์เซียน่า ให้แก่ฝรั่งเศส เพราะตอนนั้น ฝรั่งเศสโดยนโปเลียน โบนาปาร์ต(NAPOLEON BONAPARTE) ได้ก้าวขึ้นมามีอำนาจในฝรั่งเศสแล้ว และได้ทำสงครามหลายครั้งได้ชัยชนะจนเป็นที่ครั้นคร้ามจากประเทศต่างๆของยุโรป
แม้ว่า ออสเตรีย ซึ่งขณะนั้นก็คือ ราชวงศ์ฮับส์เบิร์ก ได้ร่วมกับ สเปน และ สหราชอาณาจักร ก่อตั้งกองกำลังผสม เพื่อทำสงครามกับนโปเลียน ก็ยังต้องพ่ายแพ้ต่อ นโปเลียนอย่าดี
จึงเป็นสาเหตุให้สเปนต้องยกดินแดนหลุยส์เซียน่าให้แก่ฝรั่งเศส
ดินแดนหลุยส์เซียน่า ของฝรั่งเศสในยุคนั้น กินอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลกว่ามลรัฐหลุยส์เซียน่า ในปัจจุบันนี้มากนัก คือกินพื้นที่เกือบจะครึ่งหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน
หลังจาก อเมริกาได้รับชัยชนะในการทำสงครามประกาศอิสรภาพจากอังกฤษในปีค.ศ. 1783 ก็ตระหนักว่า ปัญหาใหญ่ของประเทศข้อหนึ่งก็คือ มีประเทศมหาอำนาจของยุโรปชาติหนึ่ง เข้ามาครอบครองดินแดนทางด้านตะวันตกของอเมริกา และเป็นอุปสรรคของรัฐเริ่มต้นของอเมริกาในสมัยนั้น ที่จะเข้าถึงแม่น้ำซิสซิปซิปปี้
เพราะแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ ถือเป็นสายเลือดสำคัญในการขนส่งค้าขายของอเมริกา
จึงมีการเจรจาเพื่อจะขอซื้อดินแดนทางด้านตะวันตกคืนจากฝรั่งเศส ประกอบกับการทำสงครามของนโปเลียนที่เกาะเซนต์โดมินิก ในทวีปอเมริกา ประสบความพ่ายแพ้ นโปเลียนจึงตัดสินใจที่จะขายหลุยส์เซียน่า
เดิมที ประธานาธิบดี โธมัส เจฟเฟอร์สัน(THOMAS JEFFERSON) ของอเมริกา ต้องการจะซื้อเพียงแค่เมืองนิวออร์ลีน ที่อยู่ทางตอนปลายของแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ เท่านั้น โดยที่ ประธานาธิบดี เจฟเฟอร์สัน ให้งบประมาณขั้นต้นแก่ทูตในการไปเจรขอซื้อเอาไว้ที่ 2 ล้านเหรียญ
แต่ต่อมา ก็ขยายให้เป็น 10 ล้านเหรียญ
(ภาพวาดบรรยายถึง การซื้อหลุยส์เซียน่า)
แต่ท้ายที่สุด ในวันที่ 11 เมษายน ปีค.ศ. 1803 คณะทูตที่ไปเจรจาก็สามารถตกลงซื้อดินแดนหลุยส์เซียน่าทั้งหมด แทนที่จะเป็นเมืองนิวออร์ลีนเพียงเมืองเดียว ในราคาประมาณ 15 ล้านเหรียญเท่านั้น
อาณาเขตของหลุยส์เซียน่า มีพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 2,100,000 ตารางกิโลเมตร หรือ ประมาณเท่ากับพื้นที่ของสหรัฐอเมริกา (ยุคเริ่มต้น) ในขณะนั้น
ท่านผู้อ่านอาจจะนึกภาพไม่ออกว่า หลุยส์เซียน่า ที่ฝรั่งเศสขายนั้นมีขนาดกว้างแค่ไหน ก็ขอให้เปรียบเทียบกับพื้นที่ของประเทศไทยที่มีขนาดประมาณ 5 แสนตารางกิโลเมตร
หมายความว่า ดินแดนหลุยส์เซียน่า จะใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 4 เท่า
ปัจจุบันนี้ ตำราเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ได้พูดถึงการซื้อหลุยส์เซียน่า ของอเมริกา ว่าเป็นการซื้อดินแดนในราคาที่ถูกที่สุดของสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว คิดเป็น ประมาณ 3 เซนต์ต่อเอเคอร์เท่านั้น
(ป้ายบอกทางไปหมู่บ้าน นัค เอ ติช)
เมื่อขับรถเข้าสู่เขตของรัฐหลุยส์เซียน่า เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐ ได้แนะนำให้ไปแวะชมเมืองเล็กๆที่ชื่อ NATCHITOCHES ออกเสียงว่า นัค เอ ติช ก่อนที่จะเดินทางไปยังเมืองนิวออร์ลีน
(ถนนสายหลักของหมู่บ้านที่ขนานไปกับแม่น้ำแดง)
ผมก็เลยเดินทางเข้าไปที่หมู่บ้าน นัคเอติช โดยมีเป้าหมายที่ร้านอาหารที่ชื่อ แมกซี บูกู (MERCI BEAUCOUP)
(ภัตตาคาร แมซี บูกู)
หมู่บ้านนี้ถือเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดในดินแดนหลุยส์เซียน่า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแดง ซึ่งไหลไปเชื่อมต่อกับ แม่น้ำมิสซิสซิปปี้ ถือเป็นเส้นทางค้าขายที่สำคัญของเมืองนี้ด้วย
(บ้านเรือนในศิลปะแบบฝรั่งเศส)
(ร้านนี้สุภาพสตรีคงชอบใจ)
ใครมีโอกาสเดินทางไปรัฐหลุยส์เซียน่า ก็น่าแวะไปเที่ยวที่หมู่บ้านนี้ และ ลองแวะชิมอาหารที่ร้านนี้ดูนะครับ
