ไมเคิลแองเจโล ผู้ถูกเลี้ยงดูฟูมฟักด้วยหินอ่อน แทน น้ำนม

ซอกซอนตะลอนไป               (20 กันยายน 2556)

ไมเคิลแองเจโล ผู้ถูกเลี้ยงดูฟูมฟักด้วยหินอ่อน แทน น้ำนม   

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               จากการตอบรับของท่านผู้อ่าน  ทราบว่าท่านผู้อ่านชอบเรื่องประวัติศาสตร์ที่สนุกๆ เช่น เรื่อง คลีอัตรา –จูเลียส ซีซาร์ – มาร์ค แอนโทนี  สามคนผัวเมีย   ในสัปดาห์นี้จึงขอเปลี่ยนบรรยากาศไปหาประเทศอิตาลี เพื่อชมงานศิลปะชื่อดังสักหน่อย   

               การเที่ยวอิตาลีนั้น  หากแบ่งยุคสมัยของประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เราไปเที่ยวชม   สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ก็คือ  ยุคโรมัน(ROMAN PERIOD)  และ  ยุคเรอเรสซองส์(RENAISANCE)

               ถ้าเป็นยุคโรมันก็ต้องเดินเข้าไปชมในโรมัน ฟอรัม(ROMAN FORUM)  หรือ ตลาดโรมัน ซึ่งมีเรื่องราวมากมายให้เล่า  เช่น  สถานที่เผาศพของจูเลียส ซีซาร์  , สถานที่ที่มาร์ค แอนโทนี  กล่าวคำสดุดี จูเลียส ซีซาร์ ซึ่งทำให้การเมืองของโรมพลิกผันอย่างไม่น่าเชื่อ  หรือ  วิหารของแม่ชีศักดิ์สิทธิ์  เป็นต้น

               แต่เนื่องจากเดือนกันยายนปีนี้ เป็นวาระของการครบรอบ  509 ปีที่ไมเคิลแองเจโล(MICHELANGELO)  สร้างสรรค์ผลงานระดับโลกชิ้นหนึ่งสำเร็จ  (ผลงานชิ้นทำเสร็จในปีค.ศ. 1504)  

               เป็นผลงานปฎิมากรรมหินอ่อน ที่มีชื่อเรียกว่า “เดวิด” (DAVID)  ปัจจุบันจัดแสดงในพิพิทภัณฑ์ ACADEMY OF THE FINE ARTS  ในเมืองฟลอเร้นซ์  ประเทศอิตาลี

               จึงขอนำเรื่องราวของ  รูปสลักเดวิด  กับ  ไมเคิลแองเจโล ผู้สร้างสรรค์มาเล่าให้ฟังครับ 


(ไมเคิลแองเจโล)

               ไมเคิลแองเจโล เป็นกำพร้ามารดาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ   เขาเติบโตในเหมืองหินอ่อนนอกเมืองฟลอเรนซ์     เหมืองนี้ว่าก็คือ  เหมืองคาราร่า ที่ผลิตหินอ่อนชั้นดีที่หนึ่งของโลก

ด้วยความที่เขามีความสามารถในการแกะสลักหินอ่อนจนเป็นที่ประจักษ์  จึงมีผู้กล่าวขานว่า   ไมเคิลแองเจโล   มิได้ถูกเลี้ยงดูขึ้นมาจากน้ำนมมนุษย์  แต่ถูกเลี้ยงขึ้นมาจากนมของหินอ่อน

               ในยุคนั้น  ฟลอเร้นซ์ อยู่ภายใต้การปกครองของตระกูล เมดิชี(THE MEDICI) ตระกูลดังของเมือง  ที่มี ลอเรนโซ  ผู้ยิ่งยง (LORENZO THE MAGNIFICENT) เป็นผู้นำ

               ลอเรนโซ ชื่นชอบในเรื่องศิลปะมาก   เขาเป็นผู้อุปถัมภ์คนสำคัญของศิลปินของยุคนี้มากมายหลายคน เช่น  ไมเคิลแองเจโล  และ  ราฟาเอล   คนเหล่านี้ล้วนเคยศึกษาและฝึกฝนในบ้านของเขามาก่อนทั้งสิ้น

               ลอเรนโซ เสียชีวิตในปีค.ศ. 1492 (ปีเดียวกับที่โคลัมบัส ค้นพบอเมริกา)    หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1494   ตระกูลเมดิชี ก็ถูกขับไล่ออกจากฟลอเรนซ์   เพราะชาวเมืองต้องการการปกครองในแบบสาธารณรัฐ 

               การขับไล่ครั้งนั้น  ไมเคิลแองเจโล ก็เข้าร่วมด้วย

               ต่อมาในปีค.ศ. 1501   ชาวเมืองต้องการจะสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นมาชิ้นหนึ่ง  เพื่อเป็นที่ระลึกของการลุกขึ้นมาขับไล่ตระกูลเมดิชี   จึงได้มอบหมายให้ ไมเคิลแองเจโล เป็นผู้รังสรรค์งานชิ้นนี้

               ไมเคิลแองเจโล เลือกหินอ่อนก้อนหนึ่งที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้โดยศิลปินคนก่อน   แล้วสร้างสรรค์จนเป็นรูป “เดวิด”  


(รูปสลักหินอ่อนเต็มตัวของ เดวิด)

               ทำไมต้องเป็น  เดวิด

               ในคัมภีร์ไบเบิล ฉบับพันธะสัญญาเก่า บท ๑ ซามูเอล ๑๗:๔๙  ย่อหน้าที่  ๔๘ พูดถึงการต่อสู้ของเดวิด ซึ่งเป็นเด็กเลี้ยงแกะอายุ 17 ปี  กับชาวฟิลิสเตีย ชื่อโกไลแอต โดยที่เดวิด มีเพียงเชือกสลิงที่ใช้ขว้างก้อนหินเพียงเส้นเดียว  ในขณะที่โกไลแอต มีทั้งดาบ  หอก และ หอกซัด


(รูปสลัก เดวิด ในห้องโถงพิพิทภัณฑ์ อะคาเดมี อ๊อฟ เดอะ ไฟน์ อาร์ต)

               ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่อาจเทียบชั้นกันได้เลย   แต่ เดวิด ก็สามารถสังหาร ยักษ์โกไลแอต ลงได้ด้วยการใช้สลิงขว้างก้อนหินเข้าที่หน้าผาก  จนโกไลแอต ล้มลง ก่อนที่จะเข้าไปตัดคอซ้ำ

               ในจินตนาการของ ไมเคิลแองเจโล   ชาวฟลอเร้นซ์  ก็คือ เดวิด  ในขณะที่ ตระกูลเมดิชี ก็คือ โกไลแอต


(ภาพแสดงรายละเอียดของกล้ามเนื้อ โครงสร้างกระดูก และเส้นเลือด)

               ไมเคิลแองเจโล จับเหตุการณ์การโค่นล้มตระกูลเมดิชี่ กับ คัมภีร์ไบเบิลตอนนี้ มาอุปมาอุปมัย เป็นภาพของชายหนุ่มที่รูปร่างสมส่วน  รูปงาม  ยืนตัวตรงด้วยสายตาที่มีความแน่วแน่ ในการต่อสู้กับโกไลแอต 


(ใบหน้า และ ดวงตาที่แสดงให้เห็นถึงการครุ่นคิด และ มุ่งมั่น)

               คำถามที่ถูกถามมากที่สุดก็คือ   ทำไม เดวิด ต้องเปลือยกายล้อนจ้อนแบบนี้ด้วย 


4.เส้นเลือดที่ปูดโปน บนมือ และ กระดูกที่ปูดให้เห็น

               ในช่วงเวลาที่ไมเคิลแองเจโล สร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้   ตรงกับยุคที่นักประวัติศาสตร์ศิลป์เรียกว่า  ยุคเรอเนสซองส์   หรือ  แปลเป็นไทยว่า  ยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ

               หมายถึง การนำเอาศิลปะวิทยาการของยุคกรีก-โรมัน ที่เคยเฟื่องฟู แต่สูญหายไปในช่วงที่เรียกว่า  ยุคกลาง(MIDDLE AGES)  หลังจากที่อาณาจักรโรมันล่มสลายไปแล้วในปีค.ศ. 476 

               ปรัชญาของกรีก ถือว่า   ร่างกายของมนุษย์เป็นส่วนผสมของความสมบูรณ์แบบที่สุด  ลงตัวที่สุด ของธรรมชาติ    ดังนั้น  การแสดงเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของยุคกรีก จึงไม่ถือว่าเป็นเรื่องลามกอนาจาร


(นิ้วเท่าและเล็บ ที่แสดงรายละเอียดชัดเจน)

               แม้กระทั่งการแข่งขันกีฬาโอลิมเปียด ในประเทศกรีกโบราณ   นักกีฬาชายทุกคนก็จะต้องเปลือยกายลงไปแข้งกีฬาในสนาม  

               กีฬาโอลิมเปียด  ต่อมาได้รับการตั้งชื่อเสียใหม่ว่า   กีฬาโอลิมปิค


(รายละเอียดนิ้วมือ และ เล็บนิ้วมือ)

               รูปสลักเดวิด รูปนี้  มีข้อผิดพลาดที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงอยู่อย่างหนึ่ง   ท่านผู้อ่านทราบมั้ยครับว่า คืออะไร   เขียนคำตอบเป็นคอมเมนต์ใต้บทความมาก็ได้นะครับ   ใครตอบถูกจำนวน  3 คนแรกจะมีหนังสือ”ท่องโลกศิลปวัฒนธรรม กับ เสรษฐวิทย์” เป็นของรางวัล

               สำหรับท่านที่ต้องการจะไปชม รูปสลัก “เดวิด” อย่างใกล้ชิดติดขอบเวที  พร้อมคำบรรยายชมอย่างละเอียด สามารถติดต่อที่ ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ โทร 02 651 6900  เรามีทัวร์ที่จะออกเดินทางระหว่าง 8-15 พฤศจิกายนนี้ครับ    ผมเป็นผู้บรรยายชมเอง

               พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *