การบินไทย สายการบินแห่งชาติ(อะไร)(ตอนจบ)

ซอกซอนตะลอนไป                    (14 พฤศจิกายน 2557)

การบินไทย สายการบินแห่งชาติ(อะไร)(ตอนจบ)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               หากท่านผู้อ่านจะได้ทราบข้อเท็จจริงบางเรื่องของการบินไทย  จะต้องตกใจ   แต่ผมจะเอาเรื่องนี้ไว้พูดในตอนท้ายๆดีกว่า

               ในช่วงแรกๆที่สายการบินไทยเริ่มสร้างชื่อเสียงขึ้นมานั้น   เป็นเพราะความพิถีพิถันในการนำเสนอการบริการต่างๆด้วยวิถีทางแบบไทยๆ   ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริการบนเครื่องบินที่มีความอ่อนหวาน  ละเมียดละไม  และ นุ่มนวล  

               จนถึงอาหารบนเครื่องบินที่เสริฟให้ผู้โดยสารด้วยอาหารคุณภาพ   แม้กระทั่ง  เที่ยวบินภายในประเทศที่เสริฟอาหารจานร้อนด้วย

               จนเป็นที่กล่าวขานว่า  ถ้าจะบิน  ก็ต้องบินด้วยการบินไทยเท่านั้น   เพราะอาหารดีกว่าสายบินอื่นๆ

               แต่เทคโนโลยี และ ความรู้ในเรื่องเหล่านี้สามารถเลียบแบบกันได้    ดังนั้น   เมื่อสายการบินอื่นจับทางของสายการบินไทยได้  และเลียนแบบการบริการของสายการบินไทย   สิ่งที่เป็นจุดเด่นของสายการบินไทย  จึงมิใช่จุดเด่น หรือ จุดขายของการบินไทยอีกต่อไป 

               ยิ่งเมื่อการบินไทย เปลี่ยนนโยบายบยกเลิกอาหารจานร้อนบนเที่ยวบินภายในประเทศ  และลดมาตรฐานของอาหารบนเครื่องลงด้วยเหตุผลว่า  ต้องการจะลดต้นทุน  โดยที่ราคาก็ยังแพงเหมือนเดิม  ก็ยิ่งทำให้ผู้คนเริ่มมองหาทางเลือกอื่นกัน 

               ยิ่งมีสายการบินโลว์คอส หรือ สายการบินต้นทุนต่ำ เกิดขึ้นมากมาย   ผู้คนจึงเลือกบินกับสายการบินต้นทุนต่ำแทน    จึงไม่น่าแปลใจที่การบินไทยจะตกอยู่ในภาวะขาดทุนต่อเนื่องมาโดยตลอด 

               ดูได้จากผลประกอบการของการบินไทยของปีที่แล้วที่ระบุว่า   คนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว   แต่สายการบินไทยกลับมีผู้โดยสารลดลงอย่างหนัก  

               อีกเรื่องก็คือ   ห้องพักผู้โดยสารชั้นธุรกิจ และ บัตรทอง หรือที่เรียกกันว่า  เลาจน์ นั้น    แต่ก่อนก็เป็นที่เลื่องลือว่า   ห้องพักของการบินไทยมีความหรูหรา  สะดวกสบาย แทบจะเรียกได้ว่า  ที่สุดในโลก

               แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เสียแล้ว

               ถ้าใครเคยเข้าไปใช้บริการ “เลาจน์”ของสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ ที่อิสตันบุล  จะเห็นว่า  เลานจ์ ของสายการบินไทยต้องชิดซ้ายหลบไปเลย   


(เลาจน์ของสายการบินไทย)

นอกจากเลาจน์ของเขาจะมีพื้นที่กว้างขวาง  ใหญ่โต และ บริการอาหารเครื่องดื่มอย่างมากมายแล้ว    เขายังมีห้องอาบน้ำสำหรับผู้โดยสารอีกด้วย   

               ตอนสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เริ่มบินเข้ากรุงเทพเป็นครั้งแรกเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว  ตอนนั้นถือว่าเป็นสายการบินที่ล้าหลังกว่าสายการบินไทยอย่างเทียบกันไม่ได้ 


(อาหารที่เสริฟในเล้าจน์)

               แต่วันนี้  เตอร์กิช แอร์ไลน์ ได้พัฒนาขึ้นมาจนเป็นสายการบิน ระดับแนวหน้าของโลก  และเป็นสายการบินที่ทำกำไรสูงสุดเป็นอันดับแรกๆแล้ว

               ยังจำได้ว่า  เตอร์กิช แอร์ไลน์ ยังติดตั้งโทรทัศน์ส่วนตัวทุกที่นั่งของชั้นประหยัดก่อนหน้าการบินไทยเสียอีก


(ข้าวต้มมัดที่เสริฟในเล้าจน์ของการบินไทย)

               สิ่งที่แย่ของ “เลานจ์” การบินไทยก็คือ  มีพนักงานบริการเต็มไปหมด   แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย  อาหารหมดยังต้องให้ผู้โดยสารไปเตือนด้วยซ้ำ    ถ้าเอาพนักงานในเลาจน์ออกไปสักครึ่ง  แล้วบริหารจัดการให้ดีสักนิด    การบินไทยก็คงจะได้กำไรเพิ่มขึ้นอีกมาก

               ที่แย่ก็คือ  อาหารเช้าที่เลาจน์การบินไทยบริการโจ๊ก พร้อมด้วยไข่ต้ม หรือ ไข่ลวก  พอขอจากเจ้าหน้าที่ก็ได้ความว่า   ไข่หมดแล้ว  


(พนักงานเยอะจัด  จนต้องมาช่วยฝรั่งตักอาหารเพื่อถ่ายรูปโฆษณา)

               คิดดูแล้วกัน   สายการบินที่บอกว่า  “รักคุณเท่าฟ้า”  แต่แค่ไข่ลวกก็ยังขี้เหนียวเลย 

               สิ่งที่การบินไทย เคยภูมิใจนักหนาก็คือ สำนึกแห่งการบริการ ที่เราเชื่อว่า  สำนึกของการให้บริการของคนไทยเหนือกว่าของคนชาติอื่นๆ  ซึ่งไม่ใช่เสียแล้ว   เพราะไม่ว่าชาติไหนๆก็สามารถพัฒนาการให้บริการให้ดีทัดเทียม หรือ  ล้ำหน้าการบินไทยก็ได้ 

               สาเหตุที่ทำให้การบริการของการบินไทยที่ตกต่ำ  อาจจะเป็นเพราะข้อมูลที่ผมบอกว่า  ท่านผู้อ่านจะตกใจเมื่อได้รู้


(การโฆษณาว่าใส่ใจผู้โดยสารแบบนี้   ไม่ได้เป็นจุดขายของการบินไทยอีกต่อไปแล้ว)

               ในปีหลังๆนี้   พนักงานบริการบนเครื่องที่การบินไทยรับเข้ามานั้น   80 – 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้ที่เรียนจบมาทางสายวิศวะ  หรือ  วิทยาศาสตร์  

               เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก คือ การบินไทยกำลังคิดอะไรถึงได้รับคนที่เรียนจบทางด้านนี้มาทำหน้าที่บริการบนเครื่องบิน   ไม่มีคนที่เรียนจากสายอื่นๆ เช่น  สายศิลป์ภาษา  หรือ  จากคณะการท่องเที่ยวแล้วหรือ      

               และส่วนใหญ่ของพนักงานบริการของการบินไทยก็ช่างอ้อนแอ้นอรชรดีเหลือเกิน   แต่คนที่อ้อนแอ้นนี้  บังเอิญว่าเป็นเพศชาย 

               ผมไม่แน่ใจว่า  นี่จะเป็นสาเหตุของการตกต่ำในการให้บริการของพนักงานต้อนรับของการบินไทยหรือไม่ 

               เป็นเรื่องที่การบินไทยจะต้องนำไปพิจารณา   หากยังต้องการจะกลับไปเป็นหนึ่งในสายการบินระดับแนวหน้าของโลก   เพราะได้ข่าวว่า   พนักงานต้อนรับกำลังฮึ่มๆจะประท้วงผู้บริหารเหมือนกัน 

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *