ถูกและดี ของฟรี ไม่มีในโลก(ตอน 1)

ซอกซอนตะลอนไป                           (16 เมษายน 2560)

ถูกและดี ของฟรี ไม่มีในโลก(ตอน 1)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               ข่าวดังที่สุดในแวดวงท่องเที่ยวขณะนี้  คงไม่มีข่าวไหนเกิน ข่าวการลอยแพนักท่องเที่ยวจำนวนนับพันคนที่รู้สึกว่า  ตัวเองจะได้เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในราคาแสนถูกจากบริษัทขายตรงประเภทอาหารเสริมบริษัทหนึ่ง  เมื่อคืนวันอังคารที่ 11 เมษายนนี้ 


(นักท่องเที่ยวที่ถูกหลอกว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในราคาหนึ่งหมื่นบาทเท่านั้น  ขณะที่กำลังโกลาหลกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ – ภาพข่าวจาก TNEWS)

               ขอให้ท่านผู้อ่านเข้าใจตรงกันก่อนว่า   งานนี้  ไม่ใช่บริษัททัวร์หลอกนักท่องเที่ยวนะครับ   แต่เป็นบริษัทขายตรง โดยซินแสโชกุน ไปหลอกเครือข่ายอีกต่อหนึ่ง  โดยเอาเรื่องท่องเที่ยวต่างประเทศมาเป็นตัวหลอก   

               ที่ต้องพูดแบบนี้  ก็เพื่อจะได้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องแก่กระทรวงการท่องเที่ยว และ กีฬา ที่มีนโยบายจะให้บริษัททัวร์ ต้องเพิ่มเงินค้ำประกันกับกระทรวงฯ จากบริษัทละ 2 แสนบาท เป็น 5 แสนบาท


(ซินแสโชกุน ถูกจับตัวได้ที่ระนอง  ถูกนำตัวเข้ามาสอบสวนที่กรุงเทพ – ภาพจาก ข่าวออนไลน์ผู้จัดการ )

               ที่น่าแปลกใจก็คือ  จนถึงวันนี้   ยังมีคนไทยจำนวนมากที่ยังหลงเชื่อว่า  บริษัท(ไม่ว่าจะเป็นบริษัทอะไรก็แล้วแต่)  จะสามารถจัดทัวร์ไปเที่ยวญี่ปุ่น 4 – 5 คืน ในราคาเพียงแค่ 10,000 บาท หรือ  15,000 บาท ได้ 

               โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่นักท่องเที่ยวต่างก็เดินทางในช่วงนี้จนแน่นขนัด 

               ลำพังเงิน 10,000 บาท  จะบินไปเที่ยวภูเก็ตสักแค่ 2 คืน ก็คงจะไม่ได้อยู่แล้ว  คิดได้อย่างไรว่า  จะไปไกลถึงญี่ปุ่น  และ  หากจะซื้อตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นเมืองอะไรก็แล้วแต่   อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมี 2 หมื่นบาทเป็นอย่างน้อย  และ อาจจะสูงถึง 3 หมื่นกว่าบาท  


(ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม และ เป็นประเทศที่ปลอดภัย  ใครๆจึงต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน – ภาพจาก ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่)

               ได้ทราบว่า  บริษัทขายตรงที่ว่านี้  ขายอาหารเสริมประเภทบำรุงสมอง  เข้าใจว่า   เครื่อข่ายคงเอาแต่ขาย  แต่ไม่ได้กินสินค้าที่ตัวเองขาย  สมองก็เลยอาจจะมึนๆ  จนนึกเหตุผลไม่ออกว่า  มันเป็นไปไม่ได้   

               ไม่ว่าจะในยุคสมัยใดก็ตาม  ตราบที่มนุษย์ยังมีความละโมบโลภมาก ตราบนั้น  คนเหล่านี้ก็มักจะตกเป็นเหยื่อให้พวกสิบแปดมงกุฎหลอกลวงเอาได้เสมอๆ 

               ตั้งแต่ผมยังเด็กก็ได้ยินข่าวเรื่องแก๊งค์ตกทอง ที่หลอกลวงคนเดินถนนที่คิดว่าจะได้เงินง่ายๆจากสร้อยทองที่ตกอยู่ตามถนนแล้ว  

               เรื่อยมาเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว   ก็เรื่องแชร์แม่ชม้อย  ที่หลอกคนให้มาเล่นแชร์น้ำมันที่บอกว่า  สามารถทำกำไรให้แก่สมาชิกได้นับหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุน


(ลำพังไปเที่ยวอียิปต์ ที่ค่าครองชีพถูกกว่าญี่ปุ่น  ก็ไม่อาจเป็นไปได้ในราคาหมื่นเดียว – ภาพจาก ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่)

               ไม่น่าเชื่อว่า  มีคนหลงเชื่อกันมากมายโดยไม่มีใครฉุกคิดว่า   หากเจ้ามือแชร์แม่ชม้อย สามารถทำธุรกิจได้กำไรมากมายมหาศาลแบบนี้  ทำไมเขาจึงไม่เก็บเอาไว้ทำเอง  หรือ  ทำกันเฉพาะในหมู่ญาติพี่น้องของเขา หรือ กู้เงินจากธนาคารมาทำ   

ทำไมเขาต้องเอาออกมาเผื่อแผ่เจือจานให้แก่ใครก็ไม่รู้  ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย   

               และล่าสุดก็คือ  ประเภทที่หลอกลวงว่า  บริจาคเงินแล้ว  จะสามารถเลือกไปสวรรค์ชั้นไหนๆก็ได้ตามจำนวนเงินที่บริจาค

               ล้วนแล้วแต่เป็นการทำมาหากิน หลอกเอาเงินจากคนละโมบโลภมากทั้งสิ้น 

               แน่นอนว่า   ข่าวนี้ย่อมทำให้ทั้งแวดวงผู้ประกอบอาชีพธุรกิจขายตรงที่ซื่อสัตย์สุจริต  และ แวดวงผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวอย่างตรงไปตรงมา    ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย 

               แต่ที่จะนำมาเล่าในวันนี้   ก็คือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวบางแห่ง  ซึ่งไม่ทราบว่า  เป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้อง  และ มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจท่องเที่ยวมานานแค่ไหน  กำลังมีแนวโน้มว่า   อาจจะทำเรื่องคล้ายๆกันนี้ก็ได้ 

               และอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่วงการท่องเที่ยว  และประชาชนได้อย่างมหาศาลในอนาคต  หากไม่มีการตรวจสอบยับยั้งกันเสียก่อน 

               เขามีวิธีการหลอกนักท่องเที่ยวที่ชอบของดี  และ  ราคาถูก อย่างไร   สัปดาห์หน้าผมจะเอามาเล่าให้ฟังครับ 

               พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ     

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *