ซอกซอนตะลอนไป (17 มีนาคม 2560 )
ทัวร์นั่งรถสะสมไมล์(ตอน2)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
แนวโน้มทิศทางของทัวร์ต่างประเทศของไทย ดูเหมือนจะค่อยๆปรับตัวไปสู่การแข่งขัน เพื่อให้เป็นทัวร์ราคาถูกที่สุดเข้าไปทุกขณะ อาจพูดได้ว่า ใกล้เคียงกับลักษณะวิธีการทำทัวร์แบบทัวร์ศูนย์เหรียญเข้าไปทุกที
(แผนที่ของยุโรป)
เริ่มต้นด้วยการเลือกโรงแรมราคาถูกๆ เช่น เลือกโรงแรมแค่ระดับ 3 ดาว หรือหากจะต้องเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ก็เลือกโรงแรมที่อยู่ไกลออกไปจากเมืองเข้าไว้ เพราะราคาโรงแรม 4 ดาวที่อยู่นอกเมืองจะมีราคาถูกกว่าโรงแรม 4 ดาวที่อยู่ในเมืองมาก
บางโรงแรมอยู่ไกลออกไปจากในเมืองถึงขนาดต้องนั่งรถ 2 ชั่วโมง เพียงเพื่อจะไปนอนค้างคืนเท่านั้น
ราคาถูกเป็นของคนขาย แต่เวลาที่เสียไป 2 ชั่วโมงเป็นของนักท่องเที่ยว
เพราะกฎหมายของยุโรปควบคุมไม่ให้คนขับรถบัสทำงานเกินวันละ 12 ชั่วโมง นับตั้งแต่สตาร์ทเครื่อง จนกระทั่งดับเครื่อง
นักท่องเที่ยว จึงเหมือนต้องนั่งรถบัสสะสมไมล์ตามแต่บริษัททัวร์เหล่านี้ต้องการ
ลูกทัวร์รายหนึ่งเล่าให้ฟังว่า โปรแกรมท่องเที่ยว ฮ็อกไกโด ซึ่งในวันท้ายๆจะกลับมาพักในเมืองซัปโปโร ในโปรแกรม(ตอนซื้อทัวร์) บอกว่า พักโรงแรมแกรนด์(GRAND) ซึ่งเป็นโรงแรม 4 ดาวอยู่ใจกลางเมือง ไปไหนมาไหนสะดวกเพราะมีรถไฟใต้ดินผ่าน
(ที่ตั้งของโรงแรมแกรนด์ ซัปโปโร ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้สวนโอโดริ )
และในวันดังกล่าวโปรแกรมบอกว่า จะไม่มีรถบัส และ อาหารบริการทั้งวัน ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับลูกทัวร์ เพราะโรงแรมอยู่ใจกลางเมือง สะดวกในการเดินทางอยู่แล้ว
แต่พอถึงวันเดินทาง โรงแรมที่ซัปโปโร ก็ถูกบริษัททัวร์เปลี่ยนไปเป็นโรงแรม APA ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ โรงแรม APA อยู่นอกเมืองออกไปอีกประมาณ 30 นาทีโดยรถบัส
ที่ร้ายที่สุดก็คือ ไม่มีรถไฟใต้ดินผ่านโรงแรม หากจะเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟใต้ดิน ก็จะต้องนั่งรถชัทเทิลบัสจากโรงแรมไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน เพื่อต่อรถไฟเข้าเมือง
(อาหารแบบ ไคเซกิ ของ บริษัท ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ แป็นอาหารที่เรียกว่า อาหารชาววัง)
ปัญหาก็คือ รถชัทเทิลบัสที่ว่านี้ จะมีบริการฟรีวันละ 2 เที่ยว คือตอนเช้าหนึ่งเที่ยว และ ตอนเย็นอีกหนึ่งเที่ยวเท่านั้น
ในที่สุด สมาชิกในทัวร์ก็ต้องร่วมมือกันเจรจาขอเช่ารถบัสจากหัวหน้าทัวร์ ให้ช่วยพาเข้าไปในเมือง แล้วปล่อยลูกทัวร์ช้อปปิ้ง 2 จุด แล้วรอรับกลับในตอนเย็น
สรุปก็คือ ลูกทัวร์แต่ละคนจะต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินเพิ่มอีกประมาณ 1 พันบาทเศษๆ ในทัวร์เที่ยวนั้นมีนักท่องเที่ยว 35 คน บริษัททัวร์ก็รับเงินไปร่วมๆสี่หมื่นบาท
(ทัวร์ของ ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ ที่ไปฮ๊อคไกโด จะมีปูทาราบะ แบบนี้บริการ)
นอกจากนี้ ในโปรแกรมทัวร์ราคาถูกส่วนใหญ่มักเขียนว่า ลูกทัวร์ทุกคนจะต้องให้ทิปคนขับรถ และ หัวหน้าทัวร์จากประเทศไทยอีก ในอัตราที่เขาระบุ
ส่วนใหญ่มักจะระบุให้ต้องทิปหัวหน้าทัวร์วันละ 3-5 เหรียญยูเอส หรือ ยูโร ต่อคนต่อวัน และ ต้องทิปคนขับรถในอัตราที่ใกล้เคียงกัน แต่อาจจะน้อยกว่านิดหน่อย
รวมเบ็ดเสร็จ ทัวร์เที่ยวนั้นจะเก็บค่าทิปได้ประมาณ พันกว่าเหรียญยูเอส หรือ ยูโร
ถ้าเงินจำนวนนี้ตกถึงมือของหัวหน้าทัวร์ และ คนขับรถ ซึ่งเป็นคนทำงานบริการก็จะเป็นเรื่องดี แต่เท่าที่ทราบจากหัวหน้าทัวร์หลายคนก็คือ เงินทั้งหมดนี้จะตกไปอยู่กับบริษัททัวร์
พูดง่ายๆก็คือ บริษัททัวร์แอบซ่อนค่าทัวร์เอาไว้ในสิ่งที่เขาเรียกว่า ค่าทิป
นี่คือวิธีการทำทัวร์แบบไม่ค่อยตรงไปตรงมาของทัวร์ราคาถูก
ก็ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อแล้ว ว่าจะเสี่ยงซื้อทัวร์ราคาถูกหรือไม่
ระหว่างวันที่ 18 – 27 พฤษภาคม นี้ ผมจะนำทัวร์ไปออสเตรีย – ชาเล่ห์ แอนด์ เลค พักโรงแรมริมทะเลสาบ และ หมู่บ้านเล็กๆบนเขาสูง แบบที่ท่านจะต้องประทับใจไปอีกนาน สนใจสอบถาม รายละเอียด และ สำรองที่นั่งได้ที่ โทร 02651 6900
