ซอกซอนตะลอนไป (29 กรกฎาคม 2561 )
อิงเกิลนุค ไวน์เนอร์รี่ ดื่มไวน์ ดื่มตำนาน(ตอนจบ)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
แล้วก็มาถึงวันที่ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า จะต้องข้ามแม่น้ำรูบิคอน
ตอนที่เขาเริ่มทำธุรกิจไวน์นั้น องุ่นส่วนหนึ่งปลูกที่ไร่ รุธเธอร์ฟอร์ด และนัยว่า ธุรกิจก็คงจะเจริญเติบโตขึ้นเป็นลำดับ
ในช่วงเวลานั้นเอง นอกเหนือจากธุรกิจไร่ไวน์แล้ว เขาก็ยังคงทำงานภาพยนตร์ที่เขาเชี่ยวชาญอยู่ควบคู่กันไป ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง APOCALYPSE NOW , THE COTTON CLUB และ THE GODFATHER ภาค 3 ในปีค.ศ. 1990
(ฟรานซิส คอปโปลา ในเซลลาร์ ไวน์ อิงเกิลนุค เหลือแต่ภาพพจน์ของผู้ผลิตไวน์ ไม่เหลือภาพของผู้กำกับภาพยนตร์อีกเลย)
คอปโปล่า คงจะหงุดหงิดที่ไม่สามารถใช้ชื่อ “อิงเกิลนุค” ได้ เพราะเขาไม่ได้ซื้อลิขสิทธิ์ชื่อตัวนี้มาด้วยตั้งแต่ต้น ดังนั้น ในช่วงที่เขาเริ่มผลิตไวน์ออกมาจากไร่รุธเธอร์ฟอร์ด จนขายดิบขายดีจนต้องไปขยายปลูกอีกหนึ่งที่คือ ที่ไร่โซโนมา ที่ห่างออกไปประมาณ 20 กิโลเมตรเศษ
ดังนั้น ในปีค.ศ. 1995 หรือ 20 ปีหลังจากที่เขาซื้อที่ดินผืนแรกจาก ฮิวเบลอิน เขาก็เจรจาขอซื้อที่ดินส่วนที่เหลือทั้งหมด รวมทั้งลิขสิทธิ์ชื่อ อิงเกิลนุค ด้วย
การเจรจาเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะสถานการณ์ต่างไปจากเดิมมาก อาจเป็นเพราะ ฮิวเบลอิน ซึ่งทำธุรกิจเรื่องเหล้าว้อดก้าเพียงอย่างเดียวประสบความสำเร็จทางธุรกิจมากขึ้น และ ธุรกิจไวน์ของอเมริกาก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นด้วย
การเจรจาดำเนินไปอย่างดุเดือด ทว่าในที่สุด คอปโปล่าก็เสนอสิ่งที่ฮิวเบลอินปฎิเสธไม่ได้ เหมือนกับที่ ดอน โคลิโอเน่ ในภาพยนตร์เรื่อง เดอะ ก็อดฟาเธอร์ เสนอข้อเสนอที่ไม่อาจปฎิเสธได้
ดีลนี้มาปิดลงที่ ฮิวเบลอิน ยอมขายที่ดินส่วนที่เหลือทั้งหมด รวมทั้ง ชาโตว์โบราณที่กัปตันนีโบมสร้างเอาไว้เป็นที่สถานที่ผลิตไวน์ด้วย
(ผู้เขียน กับ เซบาสเตียน ผู้แนะนำในการชิมไวน์ของไร่ อิงเกิลนุค ผู้ซึ่งฝันว่า วันหนึ่งจะเป้นนักแสดง)
ที่สำคัญที่สุดก็คือรวมถึงลิขสิทธิ์ชื่อ “อิงเกิลนุค” ที่คอปโปล่าต้องการมากที่สุด ด้วยราคา 11 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งมากกว่าตอนที่เขาซื้อที่ดินในครั้งแรกประมาณ 5 เท่า
เป็นการตัดสินใจข้ามแม่น้ำรูบิคอน ของคอปโปล่า เช่นเดียวกับ จูเลียส ซีซาร์ ที่ข้ามแม่น้ำรูบิคอน อันเป็นแนวพรมแดนทางเหนือของสาธารณรัฐโรมัน
ย้อนกลับไปในปี 48 ก่อนคริสตกาล จูเลียส ซีซาร์ นำทหารของเขาที่มีเพียง 1 กองพลเท่านั้น เดินทางจากแคว้น ทรานส์ อัลไพน์ ที่อยู่ในฝรั่งเศสปัจจุบัน ลงมาสู่คาบสมุทรอิตาลี มุ่งหน้าไปยังกรุงโรม
เป็นการแสดงท่าทีว่า จะก่อสงครามกลางเมืองกับ นายพลปอมเปย์ ซึ่งเป็นสหายเก่า และ อดีตลูกเขยของเขา
(ภายในชาโตว์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดีล 11 ล้านดอลล่าร์ในการซื้อชื้อ อิงเกิลนุค)
เมื่อจูเลียส ซีซาร์ นำทัพมาถึงแม่น้ำรูบิคอน ซึ่งไม่กว้างนัก จุดนี้เองที่เขาจะต้องเลือกทางเดินของตนเองว่า จะข้ามแม่น้ำรูบิคอน หรือไม่
หากเขาตัดสินใจข้ามแม่น้ำ เขาก็จะกลายเป็นกบถตามกฎหมายของโรมัน ซึ่งมีโทษประหารด้วยการถูกจับโยนลงมาจากหน้าผาตรงหินทาเพียน
การข้ามแม่น้ำรูบิคอน จึงเป็นเสมือนการวัดดวงแบบโยนเหรียญหัวก้อย ว่าจะเป็นหรือตาย เป็นการเลือกแล้วเลือกเลย เลือกแล้วชีวิตจะเปลี่ยนไปไม่มีวันเหมือนเดิมอีก
(ตราของไวน์ รูบิคอน)
ไวน์รูบิคอน ของฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า เป็นการผลิตเพื่อรำลึกถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญของชีวิตของ คอปโปล่า และ ตอนนี้ ไวน์ รูบิคอนสามารถใช้ชื่อ อิงเกิลนุคได้แล้ว
และเพื่อพัฒนาไวน์ให้ดีขึ้นตามแนวทางที่กัปตันนีโบมเคยสร้างไว้ คอปโปลา จึงได้ว่าจ้าง ฟิลิปเป้ บาสคัวเลส(PHILIPPE BASCAULES) จาก ไวน์เนอร์รี่ ชาโตว์ มาร์โกซ์(CHATEAU MARGUAX) ของฝรั่งเศสมาช่วยปรุงไวน์ให้มีแอลกอฮอลน้อยลง ให้ง่ายแก่การดื่ม และ ให้ความสดชื่นมากขึ้น
(ฟิลิปเป้ บาสคัวเลส)
หลังจากข้ามแม่น้ำรูบิคอนมาด้วยการซื้อที่ดินทั้งหมดของ อิงเกิลนุค คอปโปล่า ก็ไม่อาจหันหลังกลับไปได้อีกแล้ว ชีวิตเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
เราอาจไม่ได้เห็นภาพยนตร์ที่กำกับการแสดงโดย ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า ผู้กำลังรางวัล 6 ตุ๊กตาทองสาขาผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยมอีกต่อไปแล้ว
เพราะเขากำลังจะมาสร้างตำนานไวน์ อิงเกิลนุค สืบต่อจาก กัปตันนีโบม
สวัสดีครับ
