“คนสวย” ในวิชาโหราสาสตร์ เขาดูกันอย่างไร

“คนสวย” ในวิชาโหราสาสตร์  เขาดูกันอย่างไร 

โดย   เสรษฐวิทย์   ชีรวินิจ

ยิ่งแก่ตัวขึ้น  ยิ่งรู้สึกว่า  โลกมันหมุนเร็วขึ้น

เผลอไปหน่อยเดียว  ผมก็เขียน “ดูดวงออนไลน์” ในคอลัมน์แนวหน้าออนไลน์ โดยใช้นามปากกาว่า “ธรรมธิปติ”  ครบหนึ่งปี หรือ  52 สัปดาห์เต็มพอดี

ก็ต้องขอขอบคุณคุณปอง อัญชลี ไพรีรักษ์ ที่ชักชวนให้มาเขียนพยากรณ์ดวงชะตาให้ท่านผู้อ่าน ตามแบบฉบับของโหราศาสตร์ภารตะ ที่อาจารย์สิทธินาถ ทองมี เป็นผู้ถ่ายทอด

สำหรับท่านที่สนใจจะอ่าน “ดูดวงออนไลน์”  ก็เข้าไปที่ www.naewna.com แล้วไปที่ “คอลัมน์ออนไลน์”ครับ

หรือหากสนใจที่จะศึกษา วิชาโหราศาสตร์ภารตะ ก็สามารถเข้าไปอ่าน  บทความตำราวิชาโหราศาสตร์ภารตะได้ที่  www.horaparata.com/setthawith

วันนี้  ขอเอาเรื่องสนุกๆ เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ และ วิชาโหราศาสตร์ มาเล่าสู่กันฟังครับ

คำถามหนึ่งที่ผมมักจะถูกถามจากผู้มาดูดวงมากที่สุดก็คือ  จะได้คู่ครองรูปร่างหน้าตาแบบไหน

เรื่องการทายรูปร่างหน้าตาของคู่ครองนั้น   อาจารย์ของผมเคยบอกว่า   ควรหลีกเลี่ยง  เพราะรูปร่างหน้าตาของมนุษย์เราจะเปลี่ยนแปลงไปตามวัย หนึ่ง   จะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวการณ์  คือ  อดอยาก หรือ กินดีอยู่ดี  สอง

ถ้าท่านผู้อ่านจะลองย้อนกลับไปดูว่า  วันที่คุณแต่งงาน  คู่ครองของคุณรูปร่างผอมสวยสะโอดสะองขนาดไหน  และคุณก็มีรูปร่างได้สัดส่วนสมกับเสื้อสูทขนาดไหน

และวันนี้   ทั้งคุณและคู่ของคุณ  เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างไร

ถ้าหมอดูบอกว่า   แฟนคุณรูปร่างท้วมใหญ่  คุณก็จ้องหาแต่งคนรูปร่างท้วมใหญ่   หาเท่าไหร่ก็เจอแต่ประเภทผอมกะหร่อง    ก็เลยไม่ได้แต่งงานสักที

หรือ  หมอดูบอกว่า เนื้อคู่ของคุณจะต้องเป็นคนผอม  แต่คนที่อยู่กินด้วยกันนี้กลับเป็นคนท้วม   งั้นก็คงไม่ใช่เนื้อคู่นะซิ   พาลกลับบ้านไปเลิกรากันอีก  เพราะเชื่อหมอดู

เนื่องจากคนที่ผอมในวันนี้  มีโอกาสอ้วนในวันข้างหน้า   หากเขากินดีอยู่ดีขึ้น  หรือมี่ความสุขสบายมากขึ้น    ส่วนคนอ้วนในวันนี้   ก็มีโอกาสผอมในวันหน้าด้วยเหมือนกัน  หากเขาหันมาดูแลตัวเองอย่างดีตามที่หมอแนะนำ

อาจารย์ของผมจึงไม่สนับสนุนในการดูรูปร่างหน้าตาของคู่ครองจากในดวงชะตา   เพราะโอกาสผิดพลาดมีสูงมาก

อย่างนายคนนี้    แกลดน้ำหนักจนรูปร่างเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 12 สัปดาห์เท่านั้นเอง

แบบนี้  จะให้ภรรยาของเขาให้คำจำกัดความว่า   สามีของเธออ้วนหรือผอมอย่างไรกันแน่

แล้ววิชาโหราศาสตร์สามารถดูว่า  คนๆนี้สวย หรือ ขี้เหร่ได้หรือไม่

ในหลักวิชาโหราศาสตร์  ไม่ว่าสาขาไหนก็แล้วแต่  มีหลักในการดูหน้าตาของเจ้าชะตาได้ว่า  “หน้าตาดี” หรือ “เป็นคนสวย” ได้เหมือนกัน  ด้วยการดูดาวจันทร์(๒)   ดูดาวศุกร์(๖)   ดูสูญพาหะลัคน์   เหล่านี้เป็นต้น

บางท่านอาจจะถามว่า   วิชาโหราศาสตร์มีต้นกำเนิดมาจากอินเดีย   แล้วคนสวยแบบอินเดีย  กับ คนสวยแบบไทย  หรือ  คนสวยแบบจีน  หรือ คนสวยแบบฝรั่ง  หรือ  คนสวยแบบอัฟริกา   จะใช้วิธีดูเหมือนกันหรือไม่

คำถามนี้ก็ทำเอาผม  อึ้งกิมกี่ ไปเหมือนกัน

เพราะรสนิยมในเรื่องความงามของแต่ละชาติพันธุ์นั้น   ไม่เหมือนกัน   ฝรั่งผิวขาวอาจจะชอบคนผิวคล้ำไปจนถึงผิวดำ   ในขณะที่คนไทยเราอาจจะชอบคนผิวขาวนวลใส

แต่ก็ไม่ใช่มาตรฐานสำหรับคนทุกคนอยู่ดี

ดังนั้น  การพูดถึงความสวยคงจะไม่ใช่มาตรฐานสากล   แต่คงจะต้องหมายเฉพาะความสวยในความหมายของคนที่มีชาติพันธุ์เดียวกัน    อย่างเช่น  มีข้อมูลของพวกฝรั่งที่ทำไว้ว่า   ผู้หญิงสวยจะต้องมีองค์ประกอบของใบหน้าอย่างไร   โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ  จมูก

ผมอ่านพบบทความหนึ่งที่พูดถึงใบหน้าที่สวยงามของผู้หญิง (ตะวันตก) ว่าจะต้องมีองศาความโด่งของจมูกที่ประมาณ 105 องศา    แต่สำหรับท่านสุภาพบุรุษ   ในข่าวบอกว่า   องศาของจมูกที่ได้สัดส่วนและสวยงามก็คือ 90 องศาครับ

กรุณาดูให้ดีด้วยนะครับ   ว่าวัดจากมุมไหน    ถ้าวัดผิดละก้อ  จมูก 90 องศาคงจะดูไม่จืดทีเดียว

สาวๆท่านใดที่กำลังจะเสริมจมูก  จะเอารูปนี้ไปดูเป็นตัวอย่างก็ได้   แต่อย่าลืมว่า   ก็ต้องรับกับใบหน้าโดยรวมด้วย  และ ไม่ขัดแย้งกับชาติพันธุ์ของตัวเองด้วย

และเพราะเทคโนโลยีการเสริมความงามนี่เอง   ที่ทำเอาวุ่นไปทั้งโลก   และทำเอาวิชาโหราศาสตร์ปั่นป่วนไปเหมือนกัน   เพราะต่อไปนี้   จะเที่ยวทายว่าคนนี้สวยไม่สวยอย่างไร   โอกาสพลาดก็มีเยอะทีเดียว

อย่างเช่นกรณีของสาวชาวเกาหลีรายหนึ่ง   ที่เปิดเผยตัวหลังจากไปทำศัลยกรรมมาเรียบร้อย   ทำให้ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง   แทบจะกลายเป็นคนละคนทีเดียว

ดูภาพของเธอ  ก่อนและหลัง  การทำศัลยกรรมซิครับ    แถมยังแสดงภาพการศัลยกรรมฟันให้ดูดีขึ้นอีกด้วย

แบบนี้เท่ากับว่า   คุณหมอไปแย่งงานของพระเจ้ามาทำทีเดียวนะครับ

ถ้าผู้หญิงที่ผ่านการทำศัลยกรรมเสริมความงามมาแล้ว   มานั่งต่อหน้าหมอดู   คิดว่าคงสร้างความปวดหัวให้แก่หมอดูได้พอสมควรทีเดียว   ว่าจะทายไปตามดวงชะตา  หรือ จะทายไปตามที่เห็นนั่งอยู่ตรงหน้า

ปัญหาก็คือ   เมื่อศัลยกรรมใบหน้าเรียบร้อยแล้ว  ชะตาชีวิตของเธอผู้นั้นจะเปลี่ยนไปด้วยหรือไม่   เช่น  ก่อนหน้านี้ดวงความรักอาจจะไม่ดี  หาคู่ยากเย็นเสียเหลือเกิน เพราะใบหน้าไม่ต้องตาชายหนุ่ม   จะกลายเป็นสาวเจ้าเสน่ห์ แบบดวง “ดาวฮิมเดือน” จนหัวกะไดบ้านไม่แห้งเลยหรือไม่

หรือจะทำให้มีความสุขในชีวิตคู่ๆไปตลอดเลยหรือไม่

เป็นเรื่องที่น่าขบคิดเหมือนกัน

แต่เมื่อไม่นานมานี้   เกิดคดีความฟ้องร้องขึ้นในประเทศจีน  โดยฝ่ายสามีเป็นผู้ฟ้องร้องภรรยาที่มีลูกด้วยกัน

ข่าวบอกว่า   ฝ่ายสามีสงสัยมากว่า   ภรรยาของตัวเองก็หน้าตาสะสวย    แต่ทำไม่   เมื่อได้ลูกออกมาจึงมีหน้าตาหน้าเกลียด   หรือว่าเธอแอบไม่มีชู้

คาดคั้นจนได้ความว่า   ภรรยาของเขาผ่านการทำศัลยกรรมเสริมความงามมาก่อนที่จะพบกับชายผู้เป็นสามี   ความขี้ริ้วขี้เหร่ที่เป็นมาแต่กำเนิดก็จึงหายไปหมด

กลายเป็นสาวคนใหม่ที่สวยปิ๊ง   จนในสามีอดใจไม่ไหวต้องขอแต่งงานในที่สุด

เมื่อทราบความจริงเช่นนี้   ฝ่ายชายก็โกรธมาก  จึงทำการฟ้องร้องต่อศาล เพื่อขอหย่า และ เรียกเงินค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินมากโขอยู่  ในข้อหาที่ฝ่ายหญิงหลอกลวงให้ฝ่ายชายสำคัญผิดว่า  ฝ่ายหญิงเป็นคนสวย

ไม่ทราบว่า   สุดท้ายแล้วคดีนี้จะลงเอ่ยแบบไหน  แล้วลูกของแกจะเติบโตขึ้นมาอย่างไร

แต่ที่ตอบไม่ได้ก็คือ  สุดท้ายใครเป็นฝ่ายชนะ   ระหว่างหมอศัลยกรรม  กับ เทพเจ้าผู้กำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์

ท่านผู้อ่านคิดว่าใครชนะครับ

Posted in ชีวิตเป็นของมีค่า โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *