“ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี”จากเด็กไร้บ้าน มาเป็นสะใภ้หลวง(ตอน 9)

ซอกซอนตะลอนไป                           (27 พฤศจิกายน 2558 )

“ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี”จากเด็กไร้บ้าน มาเป็นสะใภ้หลวง(ตอน 9)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               เจรี่ ผู้เป็น พรินซ์ ชาร์มมิ่ง(PRINCE CHARMING) ของ นางสาวมณี  หรือ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต  เป็นใคร 


(พรินซ์ ชาร์มมิ่ง ของ นางสาวมณี บุนนาค  ในวัยเยาว์) 

               พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาษ เป็นโอรสองค์เล็กในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์  กรมพระยาภาณุพันธ์วงศ์วรเดช  ที่ชาวบ้านมักจะเรียกขานว่า  สมเด็จวังบูรพา (ต้นราชสกุล ภาณุพันธ์)  ที่ประสูติแต่หม่อมเล็ก ภาณุพันธ์ ณ.อยุธยา 


(สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์  กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช) 

               ในบรรดาโอรสและธิดาทั้งหมดของสมเด็จวังบูรพา 14 พระองค์   เฉพาะที่ประสูติแต่หม่อมเล็ก ภาณุพันธ์ ณ.อยุธยา  มีเพียง 7 พระองค์  แต่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก 2 พระองค์


(หม่อมเล็ก และพระโอรส-พระธิดาในสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์)   

               ที่เหลืออีก 5 พระองค์ก็คือ  หม่อมเจ้ารำไพประภา  , หม่อมเจ้าอาภัสสรวงศ์  ,  หม่อมเจ้าภีรพงศ์ภาณุเดช หรือ ที่รู้จักกันในนาม พระองค์เจ้าพีระ นักแข่งรถเจ้าของรางวัล ดาราทอง  , หม่อมเจ้านรเศรษฐสุริยลักษณ์  และ  หม่อมเจ้าจิรศักดิ์สุประภาต (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)  

               เนื่องจาก  พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงมีพระโอรส หรือ พระธิดา   สมเด็จวังบูรพา ซึ่งมีศักดิ์เป็น พระอัยกา หรือ ลุง ของ รัชกาลที่ 7 (เนื่องจากเป็นพระอนุชาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) จึงได้นำเอาหม่อมเจ้าภีรพงศ์ภาณุเดช หรือ พระองค์เจ้าพีระ  มาถวายตัวให้อยู่ในการดูแลของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ฯ

               พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ฯ ทรงโปรดปราน “พี่น้อย”  หรือ พระองค์เจ้าพีระ เป็นอย่างมาก    เมื่อพระองค์เจ้าพีระอายุได้ 13 ปี  พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าได้ส่ง พระองค์เจ้าพีระ มาศึกษาที่ประเทศอังกฤษ   ทำให้พระองค์เจ้าพีระ ได้รู้จักและสนิมสนมกับพระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์

               พระองค์จุลฯ ทรงโปรดปรานพระองค์เจ้าพีระ เป็นอย่างมาก   ถึงกับเขียนจดหมายขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระองค์พีระ มาอยู่ในความดูแลของพระองค์จุลฯ ตลอดไป 

               แม้ว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯจะทรงไม่พอพระทัยเป็นอย่างยิ่ง   แต่เมื่อ “พี่น้อย” ยืนยันที่จะไปอยู่กับ พระองค์จุลฯ   พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ก็มิได้ทักท้วงแต่ประการใด  ทรงปล่อยให้พระองค์เจ้าพีระฯ ไปอยู่ในความดูแลของพระองค์จุลฯ 


(พระองค์เจ้าพีระ (ซ้าย)  กับ พระองค์จุลฯ)

               ต่อมา  สมเด็จวังบูรพา ได้พาโอรสองค์สุดท้อง คือ พระองค์จิรศักดิ์ หรือ “เล็ก” มาถวายตัวให้พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯอีก   พระองค์จึงทรงโปรดปราน “เล็ก” เป็นอย่างมากจนกลายเป็นตัวแทนของ “พี่น้อย”ไปในที่สุด

               พระองค์จึงทุมเทความรัก  ความเมตตากรุณา และ เอ็นดู ทั้งหลายทั้งปวงที่เคยให้ “พี่น้อย” มามอบให้แก่ “เล็ก” โดยสิ้นเชิง 

               วันหนึ่ง  เจรี่ ได้บอกกับนางสาวมณีว่า  วันอาทิตย์หน้า เจรีได้กราบทูลเชิญ “ทูลกระหม่อม” ซึ่งหมายถึง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เสด็จมาอ๊อกซ์ฟอร์ดเพื่อดูตัวเธอ  เพราะเจรี่ได้กราบทูลต่อพระองค์ว่า  เจรี่มีความรักต่อนางสาวมณีอย่างมาก และต้องการจะแต่งงานด้วยอย่างเร็วที่สุด  

“ทูลกระหม่อม” ไม่ทรงพูดอะไร  แต่บอกว่าจะขอลงมาพบ และดูตัวนางสาวมณีเสียก่อน 

น่าจะเป็นวินาทีแห่งความตื่นเต้น  ตกใจ  และ เครียด ที่สุดของนางสาวมณี ซึ่งถูกบันทึกในหนังสือเล่มนี้ว่า

“รู้สึกว่าตนเองมีความผิด  ข้าพเจ้ามีหน้าที่ต้องเรียนหนังสือ  และทูลกระหม่อมคงต้องทรงนึกว่า  ข้าพเจ้าเป็นคนไม่รับผิดชอบ   อีกประการหนึ่ง  เจรี่ก็ยังอายุน้อย และเรียนยังไม่จบ  ข้าพเจ้าเองก็ยังเรียนไม่จบเช่นเดียวกัน”

และที่นางสาวมณีหวั่นใจและเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ  เกรงว่า “ทูลกระหม่อม” จะคิดว่า เธอตั้งใจจะจับเจรี่  และบอกรักเจรี่เพราะ เจรี่ร่ำรวย และเป็นโอรสบุญธรรมของทูลกระหม่อมด้วย

แต่เจรี่ก็ปลอบใจว่าไม่ต้องวิตกกังวลใจ  และยังเล่าว่า  ตั้งแต่เจรี่มามีสัมพันธ์กับนางสาวมณี  ก็ได้มีหลายคนไปเพ็ดทูลเรื่องราวต่างๆให้ทูลกระหม่อม  เช่นบอกว่า  นางสาวมณีเปรี้ยวมาก  มีนักเรียนไทยติดพันหลายคน  เพื่อให้พระองค์เกลียดชังเธอ 

แต่เจรี่ ได้กราบทูลว่า  นางสาวมณีเป็นนักเรียนหญิงคนเดียวในลอนดอน  จึงมีคนเอาอกเอาใจมาก  แต่เธอมิได้มีความสัมพันธ์กับใครเป็นพิเศษ  และยังได้กราบทูลว่า   นางสาวมณีเคยมีคนรักที่เมืองไทยมาก่อนแล้ว  ซึ่งเมื่อทูลกระหม่อมทราบเรื่องนี้ ก็ได้รับสั่งว่า   นางสาวมณีเป็นเด็กดี  ซื่อสัตย์  ไม่ปกปิดความจริง  

แสดงว่า  ตลอดเวลาที่นางสาวมณี คบหาอยู่กับ เจรี่  พรินซ์ ชาร์มมิ่งนั้น   เธอได้เล่าเรื่องราวชีวิตในอดีตของเธอให้เจรี่ ฟังหมดทุกอย่างแล้ว  ซึ่งบุคลิกดังกล่าวนี้   ก็ตรงกันกับในดวงชะตาของคุณหญิงมณี  ที่เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา 


(ดวงชะตาของคุณหญิงมณี)

จะเกิดอะไรขึ้น  เมื่อนางสาวมณี ที่เป็นคนปากกับใจตรงกัน  มาพบกับ อดีตเจ้าเหนือหัวของประเทศไทย  โดยมีการแต่งงานกับคนที่เธอรักเป็นเดิมพัน 

พบกันใหม่สัปดาห์ครับ   

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *