“ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี”จากเด็กไร้บ้าน มาเป็นสะใภ้หลวง(ตอน 14)

ซอกซอนตะลอนไป                           (22 มกราคม 2559 )

“ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี”จากเด็กไร้บ้าน มาเป็นสะใภ้หลวง(ตอน 14)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               ภารกิจของพระองค์จิรศักดิ์ ในเดือนกันยายน ปีพ.ศ. 2485 ก็คือไปปฎิบัติงานที่สก๊อตแลนด์  ซึ่งเป็นเขตพื้นที่มีสภาพอากาศหนาวจัด  ลมพัดแรง  และ มีเมฆหมอกทึบเป็นประจำ  

               เป็นสถานที่ที่หนักหนาสาหัสในการปฎิบัติภารกิจการบินอย่างยิ่ง 

               ช่วงเวลานั้น  พระองค์อาภัส เดินทางมาพักที่บ้านดอน ฮิลล์ กับหม่อมมณี ตามคำขอของน้องชาย 

               สุดสัปดาห์แรกหลังจากพระองค์จิรศักดิ์ เดินทางไปสก๊อตแลนด์  ขณะที่หม่อมมณี และ พระองค์อาภัส นั่งพักอยู่ในห้องรับแขก   จู่ๆกรอบรูปที่ใส่รูปของพระองค์จิรศักดิ์ที่วางอยู่บนโต๊ะก็พลัดตกลงมาที่พื้น  กระจกแตกกระจาย  ทั้งๆที่ภายในบ้านไม่มีลมพัดแรงๆ  หรือ เหตุอื่นใดที่จะทำให้รูปตกลงมาได้   


(หนังสือ “ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี สิริวรสาร) 

               คุณหญิงมณี เขียนเอาไว้ในหนังสือว่า   “ข้าพเจ้าใจสั่นด้วยความตกใจ  พระองค์อาภัสก็หน้าซีดเซียว  แต่เราก็มิกล้าเอ่ยปากว่ากระไร” 

               วันที่ 4 กันยายน หม่อมมณี โทรศัพท์ทางไกลคุยกับพระองค์จิรศักดิ์  อวยพรวันเกิดให้ท่าน  เป็นการพูดคุยครั้งสุดท้าย  ก่อนที่จะต้องจากกันชั่วนิรันดร์  

               วันอาทิตย์ต่อมา  หม่อมมณี ได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากเจ้าหน้าที่ A.T.A. แจ้งว่า  พระองค์จิรศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส (FATAL  ACCIDENT) ซึ่งแปลว่า  อุบัติเหตุถึงแก่ชีวิต  เนื่องจากเครื่องบินตกที่สก๊อตแลนด์


(ภาพแห่งความทรงจำที่หวานชื่น)

               คุณหญิงมณี เขียนในหนังสือว่า

               “ข้าพเจ้าฟังคำบอกเล่าเหล่านี้ทางโทรศัพท์อย่างมึนชา  ข้าพเจ้าวางสายเดินลงไปข้างล่าง  และไปเคาะประตูห้องนอนของพระองค์อาภัส  เดินเข้าไปข้างใน และทูลท่านด้วยเสียงสั่นเครือว่า  เล็กตายแล้ว   พระองค์อาภัสวิ่งเข้ามากอดข้าพเจ้าไว้  ข้าพเจ้าจึงได้เริ่มสะอื้น และร้องไห้โฮออกมาเป็นครั้งแรก”

               ขณะนั้น  พระองค์จิรศักดิ์มีพระชันษา 25 ปี หม่อมมณี มีอายุ 27 ปี และเพิ่งจะผ่านวันเกิดของทั้งคู่มาได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น  

               งานถวายเพลิงศพกระทำกันที่สุสานโกลเดอร์สกรีน 


(พระองค์จิรศักดิ์ ในชุดที่น่าจะเป็นชุดทหารอากาศขณะปฎิบัติหน้าที่ให้แก่ องค์กร A.T.A)

               ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี  หม่อมมณี ต้องมาที่โบสถ์แห่งนี้เพื่อทำพิธีศพของบุคคลอันเป็นที่รักที่สุดถึง 2 ครั้ง   ชีวิตจะโชคร้ายอะไรขนาดนี้  

               บุคคลทั่วไปคิดว่า  แม้ หม่อมมณีจะสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป   แต่เธอก็จะได้ทรัพย์มรดกจำนวนมหาศาลมาเป็นของตนเอง

แต่ชีวิตก็เหมือนฝันจริงๆ

               ก่อนหน้านั้น   พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ฯ ทรงเห็นว่า   พระองค์จิรศักดิ์ กับ หม่อมมณีแต่งงานกันในขณะอายุยังน้อย  ยังขาดประสบการณ์   และทั้งสองก็ยังต้องแบมือรับเงินจากผู้ดูแลผลประโยชน์อยู่

               ทนายความของพระองค์จึงแนะนำทูลกระหม่อมว่า  ไม่ควรให้พระองค์จิรศักดิ์มีอำนาจในการใช้เงินในกองทุนเด็ดขาดในตอนแต่งงาน จะใช้จ่ายได้ก็เพียงเงินผลประโยชน์ของกองทุนในแต่ละเดือนเท่านั้น 

               ทนายความยังแนะนำให้ระบุว่า พระองค์จิรศักดิ์จะสามารถใช้เงินกองทุนได้ก็ต่อเมื่อมีพระชันษาครบ 25 ปีบริบูรณ์   แต่หากพระองค์จิรศักดิ์สิ้นพระชนม์ไปก่อนพระชนมายุครบ 25 ชันษา  ก็ให้ผลประโยชน์ในกองทุนตกไปเป็นกรรมสิทธิ์ของทายาทของพระองค์จิรศักดิ์

               แต่ในระหว่างที่ทายาทยังไม่บรรลุนิติภาวะ กองทุนจะอยู่ภายใต้การบริหารของผู้จัดการกองทุน  จนกว่าทายาทจะบรรลุนิติภาวะ  จึงจะได้รับกรรมสิทธิ์ของกองทุนนี้ไปโดยสิ้นเชิง   

               ก่อนที่พระองค์จิรศักดิ์จะเดินทางไปปฎิบัติภารกิจครั้งสุดท้ายที่สก๊อตแลนด์  ท่านได้บอกกับหม่อมมณีว่า  จะเดินทางไปลอนดอนในเดือนกันยายนนี้ตอนที่มีพระชนมายุครบ 25 ชันษา  แล้วท่านจะทำพินัยกรรม ระบุให้ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดเป็นของหม่อมมณีแต่เพียงผู้เดียว  ในกรณีที่ท่านเสียชีวิตไปก่อน 


(พระองค์จิรศักดิ์ และ  หม่อมมณี)

               การตายของพระองค์จิรศักดิ์ ก่อนวันที่จะได้รับโอนสิทธิ์ในกองทุนทั้งหมด  ทำให้กองทุนยังคนตกอยู่ภายใต้การดูแลของผู้จัดการกองทุนต่อไป 

               สิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้าแค่เอื้อม  กลับละลายหายไปต่อหน้าต่อตาอย่างไม่น่าเชื่อ  

ใครจะสามารถวางแผนกำหนดชีวิตของคุณหญิงมณี ให้ผลิกผันหักเหอย่างเหลือเชื่อได้เช่นนี้    คนๆนั้นจะต้องเป็นนักวางโครงเรื่องที่สุดยอด เหนือสุดยอดจริงๆ 

จะเป็นใครได้อีก  นอกจากฟ้าดิน  หรือ  ดวงชะตาฟ้าลิขิตเท่านั้น

(เชิญติดตามอ่าน  คอลัมน์  “ดูดวงออนไลน์” โดย ธรรมาธิปติ  ที่ผมเขียนไว้ในอีกนามปากหนึ่ง ทุกวันเสาร์ครับ)

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *