บนเครื่องบิน ไม่ปลอดภัย ?

ซอกซอนตะลอนไป                             (13 มกราคม 2560 )

บนเครื่องบิน ไม่ปลอดภัย ?

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               เมื่อปลายปี พ.ศ. 2558   ผมได้เขียนถึงเหตุการณ์ที่ถูกพวกมิจฉาชีพขโมยเงินในกระเป๋าสะพายหลังของผม บนเครื่องบินของสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์  และได้ร้องเรียนไปยังสายการบินแต่ไม่เกิดผลอะไร 

               ในช่วงเวลาใกล้ๆกันนั้นเอง   ก็มีข่าวการขโมยทรัพย์สินบนเครื่องบินอีกหลายครั้ง   แต่ดูเหมือนว่า   ไม่มีสายการบินใดที่จะตอบสนองต่ออาชญากรรมเหล่านี้  ด้วยการติดกล้องวงจรปิดบนเครื่องบิน  เพื่อเป็นการป้องปรามพวกก่ออาชญากรรม

               เชิญอ่านบทความที่ผมเขียนได้ตามลิงค์ข้างล่างครับ

http://www.naewna.com/columnonline/21843

               วันนี้  ขอพูดถึงเรื่องความปลอดภัยบนเครื่องบินของสายการบินทั่วโลกอีกครั้ง

               เนื่องมาแต่ข่าว แครี่ ฟิชเชอร์  ดารานักแสดงหญิงจากภาพยนตร์เรื่อง “สตาร์ วอร์ส” ได้เสียชีวิตในขณะบินจากลอนดอน ไปยัง ลอส แองเจลีส เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559   ด้วยอาการทางหัวใจ


(แครรี่ ฟิชเชอร์ ดารานำในภาพยนตร์เรื่อง สตาร์ วอร์ส)

               รายละเอียดเกี่ยวกับอาการป่วย และเสียชีวิต ของเธอไม่ค่อยเป็นที่เปิดเผยนัก   แต่ทราบว่า  เธอมีอาการทางหัวใจตั้งแต่ก่อนที่เครื่องจะลงจอดไม่ต่ำกว่า 15 นาที   และเมื่อไปถึงโรงพยาบาล  ก็ไม่ทันการเสียแล้ว

               ตามกฎของสายการบิน   เครื่องบินทุกลำจะต้องตระเตรียมเครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคขั้นต้นบนเครื่องบิน  อันประกอบด้วย  สเตตโธสโคป(STETHOSCOPE) หรือ หูฟังการทำงานของอวัยวะภายใน  และ เครื่องวัดความดันโลหิต และ การเต้นของหัวใจ  และ ยาฉีดบางชนิดที่จำเป็นในการปฐมพยาบาลขั้นต้น


(เครื่อง สเตตโธสโคป – ภาพจากวิกิพีเดีย)

นี่คือมาตรฐานที่ทุกสายการบินจะต้องมี  เพื่อให้ผู้โดยสารสักคนที่อาจจะเป็นแพทย์  หรือ เป็นผู้ที่พอจะมีความรู้ทางการแพทย์อยู่บ้าง ที่บังเอิญอยู่บนเครื่องบินลำนั้นจะได้ช่วยตรวจเช็ค และ  วิเคราะห์อาการของผู้ป่วยฉุกเฉินบนเครื่องบิน เพื่อประกอบการตัดสินใจของกัปตันว่า  จะเลือกเอาเครื่องลงฉุกเฉินเพื่อนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลหรือไม่ 


(เครื่องวัดความดันโลหิต)

เครื่องมือทางการแพทย์ที่ว่านี้  จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการอยู่รอดปลอดภัยของชีวิตผู้โดยสาร

เมื่อไม่นานมานี้   ลูกทัวร์ของผมท่านหนึ่งซึ่งเป็นแพทย์ ได้ประสบเหตุการณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบินลำหนึ่ง  ซึ่งผมจะไม่เอ่ยชื่อของสายการบินนั้น  ได้เล่าให้ผมฟังว่า

เมื่อมีเสียงประกาศหาแพทย์บนเครื่องบินเพราะมีผู้ป่วยฉุกเฉินบนเครื่องบิน  เพราะมีอาการเกี่ยวกับการหายใจ   ท่านจึงรีบอาสากับเจ้าหน้าที่บนเครื่องบินช่วยตรวจผู้ป่วยทันที   แต่ก็ประสบกับปัญหาอันเกิดจากเครื่องมือทั้งสองอย่างที่ว่ามา 

เครื่องสเตตโธสโคป บนเครื่องบินลำนั้นคุณภาพค่อนข้างแย่  ไม่สามารถฟังเสียงการทำงานของอวัยวะภายในได้ถนัดนัก  ซ้ำเสียงเครื่องยนต์ของเครื่องบินก็ยังดังรบกวนการฟังที่ว่านี้อีก  จึงยากมากที่จะวินิจฉัยโรคขั้นต้นได้อย่างแม่นยำ 

นอกจากนี้  เครื่องวัดความดัน และ การเต้นของหัวใจ  ก็ยังทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร

กล่าวคือ  แถบกาวรัดแขนเสื่อมสภาพ  ทำให้เมื่ออัดลมเข้าไปที่เข็มขัดรัดแขนเพื่อดูผลของความดันโลหิต และ จำนวนครั้งของการเต้นของหัวใจ 

ปรากฏว่า  แถบกาวรัดแขนกลับไม่สามารถยึดตัวได้   ทำให้เข็มขัดหลุดออกจากกัน การวัดผลเต็มไปด้วยความทุลักทุเล  การวัดความดันโลหิตไม่สามารถอ่านผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โชคดีที่ผู้ป่วยท่านนี้  มีอาการไม่หนักหนานัก   จึงเพียงแค่ปฐมพยาบาลขั้นต้นก็หายเป็นปกติ   

คุณหมอท่านนี้  จึงขอให้ผมช่วยเขียนบทความ เพื่อช่วยกระตุ้นทุกสายการบินว่า   อย่าได้วางใจ หรือ ปล่อยปละละเลยเครื่องมือทางการแพทย์ทั้งสองชนิดที่ใช้บนเครื่องบิน   ด้วยเพียงแค่จัดหาให้มีครบตามกฎของสายการบินเท่านั้น 

หากแต่จะต้องดูแลว่า  เครื่องมือนั้นๆได้มาตรฐานทางการแพทย์ ที่เรียกว่า MEDICAL STANDARD  หรือ  ได้มาตรฐานเทียบเท่ากับที่หมอในโรงพยาบาลใช้กันหรือไม่ด้วย

อย่าสักแต่คิดว่า  หาซื้อเครื่องมือราคาถูกตามท้องตลาดมาไว้บนเครื่องบิน  แค่นั้นก็พอ  เพราะเมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องใช้งานจริง  เครื่องมือที่ว่า  อาจจะทำงานไม่ได้  หรือ  ทำงานไม่ได้ตามมาตรฐานทางการแพทย์  

ชีวิตของผู้ป่วยฉุกเฉินบนเครืองบิน  จะรอด หรือ จะตาย  อาจจะขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ว่านี้ก็ได้ครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *