อาจต้องถึงคราว THEXIST

ซอกซอนตะลอนไป                           (8 กรกฎาคม 2559 )

อาจต้องถึงคราว THEXIST

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               เมื่อสามสัปดาห์ก่อน  ผมมีโอกาสไปทานอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารบ้านโพธิ์ริเวอร์ไซด์ จังหวัดฉะเชิงเทรา

               ทันทีที่ได้ยินสำเนียงเสียงทักทายต้อนรับของบริกรสาว  ก็เกิดความรู้สึกแปลกๆว่า  สำเนียงของคนแปดริ้วเป็นเช่นนี้  หรือ พวกเธอจะเป็นคนจากภาคใต้   


(ร้านอาหาร บ้านโพธิ์ริเวอร์ไซด์)

               หลังจากถามไถ่พวกเธอแล้ว จึงรู้ว่า  เธอทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชา ที่มาจากจังหวัดพระตะบอง ที่อยู่ติดชายแดนไทยทางด้านจันทบุรี 


(จังหวัดพระตะบอง ในวงกลมสีแดง)

               ไม่บ่อยนักเวลาเข้าไปสั่งอาหารกับพนักงานเสริฟที่เป็นคนต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นพม่า  เขมร หรือ  ลาว ได้อย่างเข้าใจและรู้เรื่อง   แต่คราวนี้ต้องยอมรับว่า  พนักงานต้อนรับของร้านนี้พูดจาสื่อสารได้เข้าใจดีมาก  และ  พวกเธอเข้าใจคำถามของพวกเราเกี่ยวกับรายการอาหารไทยได้อย่างดี 

               คำพูดของพวกเธอแทบจะไม่ต่างจากบริกรคนไทยเลย   เพียงแต่สำเนียงอาจจะมีเสียงแปร่งๆไปบ้าง   


(ทีมพนักงานเสริฟ ที่เป็นชาวกัมพูชา ล้วน)

               หลังจากจดรายการอาหารเรียบร้อย  เธอก็ทวนรายการแล้วก็เอาไปสั่งต่อในครัว   ในช่วงนั้น   ผมเกิดความสงสัยว่า   ที่เห็นเธอจดรายการอาหารนั้น   เธอจดเป็นภาษาอะไร  หรือ  จะจดด้วยหมายเลขของเมนูอาหารแทนชื่อเรียก 

               จึงขอให้เธอเอารายการอาหารที่เธอจดมาให้ดูอีกครั้ง  ซึ่งเธอก็จะรู้สึกงงอยู่บ้าง

               เมื่อเห็นรายการอาหารที่เธอจดแล้ว   ก็ต้องรู้สึกประหลาดใจ  และ อดทึ่งในความสามารถในวิชาภาษาไทยของเธอไม่ได้    เพราะตัวอักษรไทยที่เธอเขียนนั้น  นอกจากสวยงาม ชัดเจน  อ่านง่ายแล้ว  ตัวสะกดต่างๆยังถูกต้องแทบจะเรียกว่า

               ราวกับเป็นลายมือเขียนของคนไทยที่ได้รับการศึกษาในระดับดีทีเดียว   


(สาวผู้ทำหน้าที่จดรายการอาหารที่สั่ง) 

               สอบถามว่าเรียนภาษาไทยมาจากที่ไหน  เธอบอกว่า  เรียนมาจากจังหวัดพระตะบอง  บ้านของเธอเอง  โดยใช้เวลาเรียนเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น  

               จริงอยู่   จังหวัดพระตะบอง ตั้งอยู่ติดกับชายแดนของไทย   เธออาจจะคุ้นเคยกับการพูดภาษาไทยอยู่บ้าง   การเรียนพูดภาษาไทยคงไม่ใช่เรื่องยาก 

               แต่การเรียนวิชาเขียนภาษาไทยนี่ซิ   หากเธอไม่ใส่ใจจริงๆแล้ว   คงไม่ง่ายนัก 


(ดูลายมือของเธอแล้ว  อดทึ่งไม่ได้ทีเดียว เขียนสวยกว่าเด็กไทยประมาณครึ่งประเทศ)

               เปรียบเทียบกับความรู้ภาษาไทย และ การคัดลายมือของเด็กนักเรียนไทย  ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะต้องตั้งคำถามว่า   การศึกษาของเรากำลังเดินไปลงเหว  ใช่หรือไม่  

               เมื่อเห็นตัวหนังสือที่เธอเขียน  และ  วิธีการพูดจากับลูกค้า  ที่ไม่หยิ่งยะโส  จองหอง และ แสดงออกในน้ำเสียงว่า  ยินดีให้บริการแล้ว   ก็นับว่าเจ้าของร้านโชคดีมากที่ได้คนเหล่านี้มาทำงานฝ่ายขาย 

               เช่นเดียวกับพนักงานเสริฟของร้านอาหาร “ใจสั่งมา” ที่สัตหีบ ที่เป็นชาวกัมพูชาเหมือนกัน พูดภาษาไทยได้ดีมาก   มีอัธยาศัยดี  ยิ้มแย้มแจ่มใส   และ  มีความตั้งใจที่จะให้บริการด้วย 

               จึงอาจพูดได้ว่า  แรงงานต่างชาติได้เข้ามายึดครองตำแหน่งงานระดับพื้นฐานของไทยไปแทบจะหมดแล้ว  และกำลังก้าวขึ้นไปสู่ระดับที่ต้องใช้ความชำนาญมากกว่านี้ 

               เช่น  พนักงานในครัว  เป็นแม่ครัวปรุงอาหารไทย เป็นต้น

               พนักงานเสริฟเหล่านี้   น่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 9,000 บาท  ไม่รวมเงินทิปพิเศษ  นอกจากนี้  เจ้าของร้านยังต้องจัดที่อยู่อาศัย และ อาหารให้ครบ 3 มื้ออีกด้วย

               เมื่อคิดทุกอย่างเป็นตัวเงินแล้ว  รายได้ของพนักงานชาวกัมพูชาเหล่านี้จะต้องไม่น้อยกว่า 15,000 บาทขึ้นไป  ซึ่งเท่ากับเงินเดือนของข้าราชการไทยในระดับปริญญาตรี 

               แต่ความแตกต่างก็คือ   คนงานชาวกัมพูชาแทบจะไม่ต้องใช้เงินเลย  เงินเดือน 9,000 บาทสามารถเหลือเก็บทั้งหมด  ผิดกันกับข้าราชการไทยที่ยังจะต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน  ค่าอาหาร  ค่าเดินทาง  ค่าเครื่องแต่งกาย  และ  ค่าใช้จ่ายทางสังคมอีกจิปาถะ

               เช่นเดียวกับงานอื่นๆที่คนไทยไม่ยอมทำ  เช่น  แม่บ้าน หรือ ที่เราเรียกว่าคนใช้นั่นแหละ  ซึ่งมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 9,000 บาท ไม่รวมที่พักอาศัย และ อาหาร 3 มื้อ  คนงานก่อสร้างซึ่งมีทักษะหน่อย  ก็มีค่าแรงมากกว่า 300 บาทต่อวันอยู่แล้ว    

               ต่อไปในอนาคต   พนักงานเสริฟตามร้านอาหาร  ไม่ว่าจะเป็นภัตตาคารระดับสูงขนาดไหน  กระทั่งระดับที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส  ญี่ปุ่น  จีน ในการสื่อสาร จะถูกแรงงานต่างชาติยึดครองไปหมด 

               ว่ากันว่า  วันนี้คนงานต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย  ทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย  มีมากถึง 5 ล้านคนแล้ว

               การหลั่งไหลของแรงงานจากกลุ่มประเทศอาเซี่ยน จะยังหลั่งไหลเข้ามาอีกมากมาย  ตามสนธิสัญญาที่ไทยได้ทำกับสมาชิกของกลุ่มประเทศเหล่านี้ 

               ในวันนี้   เขาอาจจะเข้ามาแบ่งอาชีพแรงงานในระดับล่างเท่านั้น   แต่เมื่อเขามีความรู้ทางด้านภาษาที่ดีกว่านี้  มีความเข้าใจต่อวัฒนธรรมไทยดีกว่านี้  เขาจะเข้ามาแย่งงานในระดับที่สูงขึ้น  งานที่ต้องการความเชี่ยวชาญมากขึ้นจากคนไทยแน่นอน 

               ไม่แน่ว่า  ในอนาคตประเทศไทยอาจจะต้องลงประชามติขอ THEXIT ออกจากสมาชิกอาเซี่ยน เพราะทนต่อการรุกรานในเรื่องแรงงานไม่ไหวรึเปล่า  

               ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่   

               (เชิญติดตามอ่านบทความ  ดูดวงออนไลน์ ที่ผมเขียนใน แนวหน้าดอทคอม นี้ ในนามปากกา “ธรรมาธิปติ”)  

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *