ไต้หวัน เมื่อจำต้องใช้นโยบายเปิดประเทศ(ตอน 3)

ซอกซอนตะลอนไป                           (16 ธันวาคม 2559 )

ไต้หวัน เมื่อจำต้องใช้นโยบายเปิดประเทศ(ตอน 3)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               การเมืองของไต้หวัน ค่อนข้างจะน่าสนใจมาก  

               ไต้หวัน มีสองพรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรคกั๊วมินตั๋ง  กับพรรค DPP ซึ่งมีนโยบายตรงกันข้ามกันแบบสุดขั้ว  ผลัดกันขึ้นมาปกครองประเทศในช่วง 20 ปีหลังนี้

               พรรคกั๊วมินตั๋ง ก่อตั้งในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่  พ่ายแพ้สงครามกลางเมืองต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน  จนต้องย้ายออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ มาปักหลักอยู่บนเกาะฟอร์โมซา(FORMOSA) ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวดัตช์ ผู้มายึดครองที่นี่ในช่วงปีค.ศ. 1624 ถึงปีค.ศ. 1662 ใช้เรียกเกาะไต้หวันตามที่พวกโปรตุเกสที่มาเข้ามาก่อนตั้งชื่อไว้ ว่า ILHA FORMOSA แปลว่า  เกาะที่สวยงาม   

               แต่พวกโปรตุเกสก็ต้องถอยกลับไปตั้งหลักที่ถิ่นฐานเดิมที่มาเก๊า   เพราะบนเกาะฟอร์โมซา มีไข้มาเลเรียชุกชุมมาก  

               เกาะฟอร์โมซ่า  ตกอยู่ภายใต้อำนาจการปกครองของราชวงศ์หมิง และ ราชวงศ์ชิงต่อเนื่องเรื่อยมา  จะกระทั่งสงครามระหว่างจีน และ ญี่ปุ่นครั้งแรก ในปีค.ศ. 1894 ถึง ปี ค.ศ.1895  ซึ่งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของราชวงศ์ชิง ต่อกองทัพของอาณาจักรญี่ปุ่น  


(สนธิสัญญา ชิโมโนเซกิ ในฉบับภาษาญี่ปุ่น – ภาพจากวิกิพีเดีย)

               ทำให้ราชวงศ์ชิงจำต้องยกเกาะไต้หวันให้เป็นของญี่ปุ่น พร้อมด้วยดินแดนอื่นๆอีกหลายแห่ง ด้วยสนธิสัญญา ชิโมโนเซกิ ที่ลงนามกันในวันที่ 17 เมษายน ปีค.ศ. 1895  ญี่ปุ่นเข้ามาครอบครองเกาะฟอร์โมซาเรื่อยมาจนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งญี่ปุ่นเป็นผู้พ่ายแพ้ในปีค.ศ. 1945   

               รวมเวลาที่ญี่ปุ่นยึดครองเกาะฟอร์โมซาประมาณ 50 ปี 


(นายพล เชิน ยี่ (ขวา) กำลังรับสนธิสัญญา ที่ลงนามโดย ริคิชิ แอนโด (ซ้าย) ซึ่งเป็นผู้ว่าการรัฐไต้หวันคนสุดท้ายที่เป็นชาวญี่ปุ่น-ภาพจากวิกิพีเดีย)

               การยึดครองของอาณาจักรญี่ปุ่น  ก่อให้เกิดการต่อต้าน และ ก่อการลุกฮือขึ้นหลายครั้ง ของชาวจีน และ คนพื้นเมืองซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเขา 

               แต่ดูเหมือนว่า   ชาวเกาะไต้หวันทั้งหมดก็ยังไม่สามารถรวมตัวได้อย่างเหนียวแน่น   เพราะยังมีความความคิดเห็นต่อการยึดครองของญี่ปุ่นอยู่หลายแนวทาง   บางพวกก็เห็นแต่ความปลอดภัยของชีวิต และ ความปลอดภัยของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าจะอยู่ภายใต้การปกครองของใคร    

               บางพวกก็เห็นว่า   หากเข้าด้วย และ ยอมจำนนต่ออาณาจักรญี่ปุ่น  ก็จะทำให้ตัวเองได้รับการปฎิบัติจากอาณาจักรญี่ปุ่นเท่าเทียมกับชาวญี่ปุ่นที่เข้ามายึดครองไต้หวัน

               สองกลุ่มนี้   เป็นพวกที่เอาด้วยกับการปกครองของญี่ปุ่น    

               อีกสองกลุ่ม  คือ  กลุ่มแรกต้องการให้ไต้หวันเป็นอิสระจากการยึดครองของญี่ปุ่น  และ ให้ตั้งรัฐบาลจากคนท้องถิ่นเพื่อปกครองไต้หวันแทน   ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งเห็นด้วยกับการเป็นอิสระจากการยึดครองของญี่ปุ่น   แต่ต้องการให้ไต้หวันกลับไปอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศจีนอีกครั้ง 


(เมือง และ จังหวัด ไถ จง ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางประเทศไต้หวัน – ภาพจากวิกิพีเดีย)

               แบ่งออกเป็นสองพวก-สองขั้วอย่างชัดเจน  คือ พวกที่เอาด้วยกับญี่ปุ่น  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเขา และ ชาวบ้านระดับล่าง  ส่วนพวกที่ไม่เอาด้วยกับญี่ปุ่นจะเป็นชนชั้นปกครอง  คนมีการศึกษา  และ  คนมีฐานะ

               พวกที่เอาด้วยกับญี่ปุ่น  ส่วนใหญ่จะเป็นคนทางใต้  ซึ่งมีผลประโยชน์จากการที่ญี่ปุ่นเข้ามาปกครองอย่างชัดเจน   อาทิเช่น เมืองเจีย อี้ ที่เป็นเมืองปากทางขึ้นสู่เขาอาลีซาน

               ในขณะที่  พวกไม่เอากับญี่ปุ่นจะเป็นคนภาคเหนือ  คือ เริ่มจากเมืองไถจง ที่อยู่ตอนกลางของประเทศโดยประมาณขึ้นไปจนกระทั่งไทเป และภาคเหนือสุด  

               มีการก่อการลุกฮือ  หรือ กบถหลายครั้ง   แต่ก็ถูกญี่ปุ่นปราบปรามลงจนได้  


(นายพล เจียง ไค เช็ค – ภาพจากวิกิพีเดีย)

               จนกระทั่ง  วันที่ 1 ตุลาคม ปีค.ศ. 1949  กองทัพของนายพล เจียง ไค เช็ค จากรัฐบาลกั๊ว มิน ตั๋ง  ซึ่งพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองในประเทศจีน ต่อกองทัพปลดแอกของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่นำโดยเหมา เจ๋อ ตง พร้อมด้วยทหารหลายแสนคน  และ ประชาชนผู้ฝักใฝ่ในรัฐบาลกั๊ว มิน ตั๋ง ประมาณ 2 ล้านคนได้เดินทางหนีออกจากแผ่นดินใหญ่จีนไปขึ้นฝั่งที่เกาะไต้หวัน 

               หลังจากนั้นอีก 7 วัน เจียง ไค เช็ค ก็ประกาศให้ ไทเป เป็นเมืองหลวงของ ประเทศสาธารณะรัฐ จีน เป็นการชั่วคราว  และเรื่อยมาจนทุกวันนี้   

               ไทเป  นั้นตั้งอยู่ทางเหนือสุดของเกาะไต้ไหวัน   จึงไม่น่าแปลกใจที่  ฐานเสียงของพรรค กั๊ว มิน ตั๋ง ส่วนใหญ่จึงอยู่ในภาคเหนือของประเทศ 

               สัปดาห์หน้าจะมาพูดกันต่อถึงความแปลกประหลาดของของการเมืองชาวไต้หวันกันครับ

               สนใจเดินทางท่องเที่ยวไต้หวัน  เชิญติดต่อ  บริษัท ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ จำกัด โทร 02 651 6900)  

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *