หิมะตกในทะเลทรายซาฮารา เป็นวิกฤติโลกจริงหรือ

ซอกซอนตะลอนไป                           (13 มกราคม 2561)

หิมะตกในทะเลทรายซาฮารา เป็นวิกฤติโลกจริงหรือ

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               ข่าวใหญ่ของสัปดาห์ที่แล้วที่ทำให้ทั่วโลกต้องตะลึง และ พรั่นสะพรึง ก็คือ ข่าวหิมะตกหนัก และ อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็วในภาคตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา   และ อีกหลายภูมิภาคของโลก

               ต่อด้วยข่าวหิมะตกหนักในทะเลทรายซาฮารา ซึ่งเป็นทะเลทรายขนาดใหญ่กินพื้นที่ครอบคลุมหลายประเทศของอัฟริกาตอนเหนือ  ตั้งแต่ภาคตะวันตกของอียิปต์เรื่อยไปทางตะวันตกจนถึงมอร็อคโค และทิศตะวันตกสุดของอัฟริกา 


(ภาพจากเว็บ LONELY PLANET )

               ข่าวหิมะตกนี้  ระบุว่าเกิดในประเทศอัลจีเรีย ที่อยู่ระหว่างประเทศลิเบีย และ มอร็อคโค

               ด้วยประสบการณ์ในการเดินทางไปอียิปต์มานาน 30 ปี  และ จากที่ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องราวของอียิปต์มาตลอดเวลา  ทำให้ผมไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นกับข่าวนี้เท่าใดนัก


(หิมะตกในทะเลทรายซาฮารา  ภาพจาก นสพ.ข่าวสด   ) 

               สำหรับท่านที่เคยเดินทางไปอียิปต์  หรือ เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอียิปต์มาบ้าง ก็คงจะพอทราบว่า  ในประเทศอียิปต์แต่ไหนแต่ไรมา  มีผู้คนอาศัยอยู่แต่เพียงพื้นที่แคบๆบนสองฝั่งแม่น้ำไนล์ที่ยาวประมาณ 1 พันกิโลเมตรเศษเท่านั้น 


(แผนที่อียิปต์ จะเห็นพื้นที่สีเขียวที่อุดมสมบูรณ์ปรากฏอยู่สองฝั่งแม่น้ำไนล์เป็นพื้นที่แคบๆเท่านั้น – ภาพจากเว็บไซต์)  

               ถัดจากพื้นที่สีเขียวริมแน่น้ำไนล์ออกไปเพียงไม่กี่กิโลเมตรทั้งทางตะวันออก และ ตะวันตก ก็จะเป็นพื้นที่ทะเลทรายล้วนๆ

               จึงเกิดคำถามในใจมานานแล้วว่า  เหตุใด  อารยธรรมโบราณที่ยิ่งใหญ่ของโลกจึงถือกำเนิดในดินแดนที่แสนจะแห้งแล้งแบบนี้

               แห้งขนาดจะหาต้นไม้สักต้นยังยากเลย 


(พีระมิด แห่งกีซา  ตั้งอยู่ในพื้นที่ทะเลทรายใกล้กรุงไคโร – ภาพโดยผู้เขียน)

               ผมเคยพูดคุยเล่นๆกับ อาจารย์พิสิฐ เจริญวงศ์ อดีตผู้อำนวยการขององค์การสปาฟา (SEAMEO SPAFA) ตอนที่เราเดินทางไปอียิปต์ด้วยกันว่า  หรืออารยธรรมอียิปต์โบราณที่เจริญรุ่งเรืองมายาวนานหลายพันปีต้องแลกมาด้วย  การทำลายป่าไม้ทั้งหมดที่เคยหนาแน่นชุกชุมในบริเวณนี้มาก่อน 

               สมมติฐานของเราก็คือ  ก่อนหน้าที่ชาวอียิปต์โบราณจะเข้ามาอาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้   ภูมิภาคนี้เคยอุดมสมบูรณ์มาก่อน  แต่ชาวอียิปต์โบราณเอาแต่ตัดไม้ทำลายป่าเพื่อเอามาสร้างความเจริญในแก่ตนเอง   โดยไม่เคยคิดที่จะปลูกพืชทดแทนขึ้นมา  จนทำให้พื้นที่ทั้งหมดกลายเป็นทะเลทราย

               ซึ่งก็คงไม่ต่างอะไรกับสถานการณ์ในประเทศไทยทุกวันนี้  ที่ป่าไม้ที่เคยอุดมสมบูรณ์กลายเป็นเขาหัวโล้นไปจนหมด  จนเกิดวิกฤติทางธรรมชาติ เช่น  อากาศร้อนผิดปกติ  ฝนตกมากกว่าปกติ น้ำป่าไหลทะลักผิดปกติ   และ แผ่นดินแห้งแล้งผิดปกติ อีกด้วย

               ซึ่งเราคงจะได้เห็นความหายนะอันเกิดจากภัยธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา และ อีกหลายแห่งทั่วโลกเมื่อสัปดาห์แล้ว

               แนวคิดนี้ก็มีโอกาสเป็นไปได้   สอดคล้องกับข่าวอีกข่างหนึ่งที่เกี่ยวกับการค้นพบของนักธรณีวิทยาท่านหนึ่งในทะเลทรายซาฮารา  

               นักธรณีวิทยา ท่านนี้ได้ค้นพบฟอสซิลของพืชจำนวนมากที่มีอายุย้อนหลังไปเมื่อนับหมื่นปีมาแล้วในพื้นที่กว้างใหญ่ดังกล่าว  และสรุปว่า  พ้นที่ดังกล่าวเคยเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่มาก่อน    มีพืชพันธุ์นานาชนิดปกคลุมอย่างหนาแน่น  และ มีสิ่งมีชีวิตมากมายอาศัยอยู่ในบริเวณนี้มาก่อน  

               แต่สาเหตุที่ทำให้พื้นที่ที่เคยเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์  กลายเป็นทะเลทรายก็เพราะการเปลี่ยนแปลงของลมมรสุมที่เคยพัดผ่านพื้นที่แห่งนี้  เกิดหยุด หรือ เปลี่ยนทิศทางการพัดไปจากเดิม   

               ทำให้ความชุ่มชื้น และ น้ำฝนที่ลมมรสุมเหล่านี้เคยนำพามาตกในทะเลทรายซาฮารา  ค่อยๆลดน้อยลงไปจนหายไปในที่สุด 


(วัฒนธรรมการทำมัมมีศพของผู้ตาย เพื่อเก็บรักษาเอาไว้ให้นานๆ ก็มาจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งมากๆ – ภาพโดยผู้เขียน)

               หากปรากฎการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับประเทศไทย คือ  ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดมาจากทะเลอันดามัน เข้ามาสู่ประเทศไทย  กับ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดจากทะเลจีนผ่านเวียตนามเข้ามาสู่ประเทศไทยเกิดหยุดไปเมื่อใด 

               จำนวนน้ำฝน และ ความชุ่มชื้นในอากาศที่เคยเข้ามาสู่ประเทศไทยเป็นประจำสม่ำเสมอ ก็จะหายไป  เมื่อนั้นแหละ   ประเทศไทยก็คงจะค่อยๆเปลี่ยนสภาพกลายเป็นพื้นที่แห้งแล้งไปในไม่ช้า 

               และยิ่งคนไทยเอาแต่ตัดไม้ทำลายป่ากันอย่างไม่บันยะบันยังเช่นทุกวันนี้  ประเทศไทยก็คงจะกลายสภาพไปเป็นทะเลทรายซาฮาราในที่สุด 

               การที่ทะเลทรายซาฮาร่า เริ่มมีหิมะตกเป็นครั้งแรกในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ   แสดงให้เห็นว่า  เริ่มมีความชุ่มชื้นเกิดขึ้นในบริเวณทะเลทรายแห่งนี้แล้ว   และหากลมมรสุมที่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า เคยพัดผ่านทะเลทรายซาฮาราเริ่มกลับมาพัดผ่านพื้นที่นี้อีกครั้ง

               ไม่แน่ว่า  ทะเลทรายซาฮารา อาจจะกลับมาเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ และเขียวขจีอีกครั้งก็ได้   เมื่อนั้น  ผู้คนที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายซาฮารา อาจจะต้องเดินทางมาดูทะเลทรายในประเทศไทย

               ขออย่าให้เป็นจริงเถอะ  เจ้าประคุณ  

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *