ครบเครื่องเรื่องเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของฟาโรห์(ตอน 5)

ซอกซอนตะลอนไป                           (23 มิถุนายน 2562)

ครบเครื่องเรื่องเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของฟาโรห์(ตอน 5)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               เมื่อฟาโรห์ สวมมงกุฎสองชั้น สวมเคราปลอม แล้วขึ้นประทับบนบัลลังก์สิงโต  ทำหน้าที่เสมือนหนึ่ง เทพรา(RA) ประทับบนบัลลังก์ เป็นผู้ปกครองแห่งอียิปต์ทั้งมวล  พระองค์ยังจะต้องมีเครื่องราชกกุธภัณฑ์อื่นๆอีกหลายชนิดเพื่อแสดงอำนาจของฟาโรห์

               เครื่องราชกกุธภัณฑ์ของอียิปต์โบราณ มีหลายรูปแบบ มากกว่า 30 ชนิด  บางชนิดเป็นอาวุธ  บางชนิดเหมือนไม้ตะบอง  แต่ชนิดที่โดดเด่นมากและจะขาดเสียมิได้ ก็คือ  คฑา (SCEPTER)  ซึ่งจะเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่ฟาโรห์ มักจะถืออยู่ในพระหัตถ์  

               คฑา ของอียิปต์โบราณมีหลายชนิด  แบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆก็คือ  แบบสั้น และ แบบยาว

               ชนิดสั้น เรียกว่า SCEPTER  ในขณะที่ ชนิดยาว เรียกว่า STAFF  แต่ไม่ว่าจะเป็นชนิดสั้น หรือ ชนิดยาว  ล้วนมีไว้เพื่อสำแดงอำนาจสูงสุดในการการปกครอง  และ  อำนาจในรูปแบบอื่นๆ ของฟาโรห์


(เทพเซธ กำลังถือ คธายาว ที่เรียกว่า  คธา วาส ในมือ)

               ภาพสลักของเทพเจ้าต่างๆที่มักจะเห็นในวิหาร  ก็คือ เทพเจ้าถือคฑายาว  ที่มีรูปหัวสัตว์อยู่บนยอด   คฑาที่ว่านี้  มีชื่อเรียกในภาษาอียิปต์โบราณว่า  “วาส” (WAS)  หมายถึง ความมั่นคง ยั่งยืน

               คธา วาส  มักจะอยู่คู่กับสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่ง  คือ กุญแจแห่งชีวิต(KEY OF LIFE)  หรือ  อังคห์ (ANKH)


(กุญแจแห่งชีวิต)

               เทพเจ้าที่มักจะปรากฏถือคฑาเอาไว้ในมือก็คือ  เทพปทาห์(PTAH) เทพแห่งเมืองเมมฟิส และ ของอียิปต์ทั้งมวลในยุคหนึ่ง   แต่ คฑาที่เทพปทาห์ถือไว้นั้น  ไม่เพียงแต่จะมีคฑา แห่งความมั่นคงยั่งยืนเท่านั้น    แต่ยังมีคธาที่มีหัวเสาที่เรียกว่า  ดเจด(DJED)  อีกด้วย  


(เทพปทาห์ ถือคธา วาส ที่มีปลายเป็นรูปหัวสัตว์ เป็นสัญลักษณ์ของความยั่นยืน  มั่นคง และ ขีด 4 ขีดต่ำลงมาก็คือ คธาที่มีหัวเสาเป็น ดเจด(DJET)  และมือขวาก็ถือ กุญแจแห่งชีวิต)

               ความหมายใน ปรัชญาศาสนาของอียิปต์โบราณถือว่า  ดเจด คือ สัญลักษณ์แห่งความมั่นคงยั่งยืนอีกชนิดหนึ่ง  เพราะชาวอียิปต์โบราณเชื่อกันว่า  ดเจด ก็คือ  กระดูกสันหลังของเทพโอไซริส 

               แต่บางตำราก็บอกว่า  ดเจด ก็คือ กระดูกสันหลังของ วัว  ซึ่งเป็นเทพีที่ได้รับการเคารพนับถือมาโดยตลอดในประวัติศาสตร์ของอียิปต์  คือ เทพี ฮาธอร์(HATHOR)  ซึ่งเป็นเทพีวัว ผู้เป็นแม่เลี้ยงของเทพฮอรัส


(คฑาของ พระเจ้าดาริอุส ที่ 1 หรือ ดาริอุส ผู้ยิ่งยง ของอาณาจักรเปอร์เชี่ยน  ก็ได้รับอิทธิพลจากศาสนาอียิปต์โบราณ)

               การใช้ คฑา ในฐานะของสัญลักษณ์แห่งอำนาจของผู้ปกครอง หรือ กษัตริย์ ยังคงสืบทอดกันต่อๆกันมา  จากฟาโรห์ของอียิปต์ มาสู่กษัตริย์แห่งเปอร์เชีย  ซึ่งครั้งหนึ่งเคยปกครองแผ่นดินอียิปต์มาก่อน เรื่อยลงมาจนถึงบรรดากษัตริย์ของยุโรป 


(พระเจ้าหลุยส์ ที่ 14 กับคธา ที่แสดงอำนาจ)

               นอกจากนี้ ภาพที่มักจะเห็นได้ตามกำแพง(PYLON) ของวิหาร ก็คือ  สิ่งที่อยู่ในมือของเทพเจ้าที่ยื่นออกไปให้แก่ฟาโรห์  ก็คือสิ่งของสองสิ่ง  สิ่งแรกก็คือ คธา อะบา (ABA SCEPTER)  ซึ่งไกด์อียิปต์มักจะบอกว่า เป็นเทียน  ซึ่งไม่ใช่


(คฑา อะบา ABA SCEPTER)

               จากข้อมูลใน OXFORD ENCYCLOPYDIA OF ANCIENT EGYPT ระบุว่า 

               คธา อะบา จะใช้ในพิธีทางศาสนาของอียิปต์โบราณ   ใช้ในการปลุกเสก หรือ สวดมนต์ให้แก่สิ่งของต่างๆก่อนที่ฟาโรห์ จะถวายให้แก่เทพเจ้า   หรือ  ใช้ในพิธีการต่อเรือ  ซึ่งถือเป็นงานก่อสร้างที่จะต้องใช้ความศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้ามาช่วยประทานพรในการสร้างด้วย 

               นอกจากนี้   ที่มักจะเห็นบ่อยมากก็คือ  ดาบ ซิมิทรา  หรือ ดาบโค้ง 


(ดาบ – SCIMITAR )

               ใครที่เคยดูหนังซีรีส์ดังเรื่อง GAMES OF THRONE  ซึ่งไม่รู้ว่าอ้างอิงเป็นเหตุการณ์ยุคไหน  ก็จะเห็นการใช้ดาบชนิดที่ว่านี้ ของชนเผ่าหนึ่ง ที่น่าจะได้รับแนวคิด หรือ อิทธิพลมาจากอียิปต์โบราณ

               ความหมายของ ซิมิทาร์ ก็คือ แขนที่แข็งแกร่งของเทพฮอรัส หรือ เทพเซธ  เปรียบได้กับสองขาหน้าของวัวกระทิง ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงหมู่ดาวบนท้องฟ้าก็คือ  หมู่ดาวหมี (BIG DIPPER หรือ THE GREAT BEAR)  

               ต้องไม่ลืมว่า  อียิปต์โบราณมีความเชี่ยวชาญเรื่องดวงดาวบนท้องฟ้ามาที่สุดในยุคนั้น  


(เทพอามุน รา (องค์ขวามือ) กำลังยื่นดาบ ซิมิทาร์ ให้แก่ฟาโรห์ รามเซส ที่ 3 เหมือนแสดงความยินดีต่อการทำสงครามได้ชัยชนะเหนือศัตรู ที่กำลังคุกเข่าร้องขอชีวิตอยู่เบื้องหน้าเทพ อามุน รา)

(เทพอามุน รา (องค์ขวามือ) กำลังยื่นดาบ ซิมิทาร์ ให้แก่ฟาโรห์ รามเซส ที่ 3 เหมือนแสดงความยินดีต่อการทำสงครามได้ชัยชนะเหนือศัตรู ที่กำลังคุกเข่าร้องขอชีวิตอยู่เบื้องหน้าเทพ อามุน รา)

               เรื่องราวประวัติศาสตร์  ตำนานเทพ  และ ที่มาของศาสนาอียิปต์โบราณนั้นสนุกมากทีเดียว  และยังมีอีกมากมายทีเดียวรอให้ท่านผู้อ่านไปสัมผัส

               สนใจจะเดินทางเจาะลึกอียปิต์โบราณ แบบสบาย  10 วัน 7 คืน ล่องเรือสำราญ 3 คืน กับ ผม ติดต่อได้ที่โทร 02 651 6900 หรือ  088 578 6666 หรือ Line ID 14092498  ที่ใกล้ที่สุดก็คือ 19 – 28 กันยายนนี้

               หรือเข้าไปชมรายละเอียดได้ที่  www.whiteelephanttravel.co.th    

               เรามีทัวร์ออกทุกเดือนครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .