“ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี” จากเด็กไร้บ้าน มาเป็นสะใภ้หลวง(ตอน 30)

ซอกซอนตะลอนไป                           (16 สิงหาคม 2563)

“ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี” จากเด็กไร้บ้าน มาเป็นสะใภ้หลวง(ตอน 30)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

               (ท่านผู้อ่านหลายท่านได้ถามมาว่า   จะหาซื้อหนังสือ “ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี สิริวรสาร” ได้จากที่ไหน   ผมพยายามติดต่อหลายๆช่องทางแล้ว   แต่ไม่ได้ผล  คิดว่า   หนังสือดังกล่าวคงจะขายหมดแล้วครับ

สำหรับท่านที่ต้องการจะอ่านบทความที่ผมเขียนเกี่ยวหนังสือเล่มนี้ย้อนหลังตั้งแต่ตอนที่ 1   เชิญเข้าไปอ่านได้ที่  www.whiteelephanttravel.co.th    แล้วไปที่ blog  แล้วไปที่   “ซอกซอนตะลอนไป”   บทความตอนที่ 1 จะอยู่ที่บล็อค 20  อ่านต่อเรื่อยๆครับ)

               ในตอนที่แล้ว  ที่คุณหญิงได้เขียนถึง “การขอเบิกเงินจากกองมรดกของสมเด็จพระปกเกล้าฯซึ่งข้าพเจ้ามีสิทธิ์ขอเบิกใช้ก่อนการแบ่งมรดก  ท่านผู้จัดการมรดกคือ  มจ.อุปลีสาณ ก็มิได้ทรงทักท้วงหรือขัดขวางแต่ประการใด”

               ทำไมจึงต้องขออนุญาตจากผู้จัดการกองมรดกเสียก่อน  จะเบิกมาใช้เองเลยไม่ได้หรืออย่างไร

               ต้องย้อนกลับไปที่ปีพ.ศ. 2485 เกิดโศกนาฎกรรมใหญ่ของชีวิตของคุณหญิงมณี  เมื่อพระองค์จิรศักดิ์ พระสวามีประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบินขณะไปปฎิบัติภารกิจทางทหารให้แก่กองทัพอังกฤษ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

               ขณะนั้น  มรดกที่สมเด็จพระปกเกล้าฯทรงมอบให้แก่พระองค์จิระศักดิ์ ซึ่งเป็นโอรสบุญธรรม ระบุไว้ว่า  มรดกนี้จะตกเป็นของพระองค์จิระศักดิ์โดยสมบูรณ์ต่อเมื่อ พระองค์จิระศักดิ์มีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์

               ตามความเชื่อของไทย  อายุ 25 ปีมักจะเรียกว่า  วัยเบญจเพศ  เป็นช่วงเวลาที่อาจจะมีเคราะห์ หรือ อันตรายเกิดแก่เจ้าชะตาได้  

               พระองค์จิระศักดิ์ ประสูติวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2460  พระองค์จะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2485  แต่ก่อนหน้าวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2485 เพียงไม่กี่วัน  พระองค์จิระศักดิ์ถูกเรียกตัวให้ไปปฎิบัติภารกิจนำเครื่องบินรบไปส่งที่สนามบินต่างๆที่เป็นพันธมิตรกับอังกฤษ

และจะจบภารกิจหลังวันเกิด ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2485

คุณหญิงมณีเขียนไว้ตอนหนึ่งว่า


(จดหมายจากหน่วยงานขนส่งทางอากาศของอังกฤษ แจ้งข่าวการเสียชีวิตของพระองค์จิระศักดิ์)

“วันรุ่งขึ้นเจรี่ตื่นแต่เช้าตรู่ รับประทานอาหารเช้ากับข้าพเจ้าแล้วจูบลาลูกๆเป็นครั้งสุดท้าย  สั่งข้าพเจ้าขออย่าลืมให้นัดหมายผู้จัดการผลประโยชน์ที่กรุงลอนดอนในวันที่ 10 กันยายนเพื่อไปรับมอบการโอนทรัพย์สินในทรัสต์ฟันด์ที่ถึงกำหนด ในโอกาสที่เจรี่จะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์”

แต่จากจดหมายแจ้งเหตุของกองทัพอังกฤษลงวันที่ 14 กันยายน บอกว่า  พระองค์จีระศักดิ์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 กันยายน   แสดงว่า  พระองค์จิระศักดิ์อยู่ในภารกิจยาวกว่าที่กำหนด

จากการที่พระองค์จิระศักดิ์ไม่สามารถทำหน้าที่รับมอบทรัพย์มรดกได้   จึงทำให้ทรัพย์มรดกทั้งหมดตกไปเป็นของทายาท  คือ ลูก 2 คน 


(พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ฯ ทรงขลิบผมให้แก่ ม.ร.ว. เดชนศักดิ์ ในพิธีทำขวัญ)

แต่เนื่องจากลูกๆยังเล็กมาก   โดยเฉพาะลูกชายคนโต คือ ม.ร.ว. เดชนศักดิ์  มีอายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น  การบริหารกองมรดกจึงต้องเป็นหน้าที่ของผู้จัดการผลประโยชน์  จนกว่าลูกจะมีอายุครบ 25 ปี 

นั่นหมายความว่า   แม้กระทั่งตัวคุณหญิงเองก็ไม่มีอำนาจสิทธิ์ขาดในกองมรดกที่ว่านี้นับตั้งแต่พระองค์จิระศักดิ์สิ้นไป   ต้องรอไปอีกเป็นเวลาประมาณ 22 ปี

หากพระองค์จิระศักดิ์ไม่เสียชีวิตก่อนหน้าวันนัดพบกับผู้จัดการมรดกที่ลอนดอน ในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2485  ชีวิตของคุณหญิงจะเปลี่ยนไปจากที่เขียนเอาไว้ในหนังสือ “ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี สิริวรสาร” อย่างสิ้นเชิง


(ดวงของคุณหญิงมณี สิริวรสาร ที่ผมผูกขึ้นเองตามเวลาเกิดโดยประมาณ)

คุณหญิงก็จะมีพระองค์จิระศักดิ์ เป็นสามีของเธอเรื่อยมา  ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข  พร้อมพูนด้วยทรัพย์มรดกที่ได้รับจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ

คุณหญิงก็จะไม่มีสามีคนที่สองคือ  พระองค์อาภัส   และแน่นอนว่า  คุณหญิงก็คงจะไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน 100 ไร่ที่สำโรงซึ่งในปีพ.ศ.2563   น่าจะมีมูลค่าเป็นพันล้านบาทแล้ว 

ชีวิตผกผัน และ เหมือนฝัน ยิ่งกว่านิยายเสียจริงๆ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ.