มัมมี่คืนชีพ(ตอน4)

ซอกซอนตะลอนไป                           (24 กันยายน 2566)

มัมมี่คืนชีพ(ตอน4)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

การขุดค้นทางโบราณคดีของปี 2022  ในบริเวณไม่ห่างจากพีระมิดขั้นบันไดเท่าไหร่นัก  ได้ค้นพบสุสานโบราณซึ่งอาจจะเป็นบุคคลที่แม้ว่าจะไม่สำคัญมากนัก   แต่ก็มีความสำคัญมากพอที่จะมีสิทธิ์ถูกฝังในบริเวณซัคคาราได้ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  คือการถูกฝังในรูปแบบมัมมี่   เพราะไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะมีสิทธิ์ทำศพในรูปแบบมัมมี่  เพราะการทำมัมมี่มักจะถูกจำกัดอยู่ในหมู่ชนชั้นนำ   เหตุผลหนึ่งก็คือ  ราคาค่าจ้างคนทำมัมมี่ในยุคอียิปต์โบราณนั้นสูงมาก

สุสานแรกที่ค้นพบในช่วงปลายปี 2018  เป็นสุสานของนักบวชที่มีตำแหน่งสูง  เขาทำงานให้กับฟาโรห์ เนเฟอริคาเร คาไค(NEFERIRKARE KAKAI) ซึ่งครองราชระหว่างปี 2477 – 2467 ก่อนคริสตกาลในสมัยราชวงศ์ที่ 5 ยุคอาณาจักรเก่า  


(พีระมิดของ เนเฟอริคาเร คาไค อยู่ที่อาบูซีร์- ภาพจากวิกิพีเดีย)

ราชวงศ์ที่ 5 เป็นราชวงศ์ที่ตามหลัง ฟาโรห์คูฟู(KHUFU)  ฟาโรห์คาฟรา (KHAFRE) และ  ฟาโรห์เมงเคารา (MENKAURE) สามฟาโรห์ผู้สร้างพีระมิด 3 องค์ที่ยิ่งใหญ่ที่เมืองกีซ่า

ฟาโรห์เนเฟอริคาเร เองก็มีสุสานของพระองค์เองในรูปทรงพีระมิดที่อาบูซีร์ (ABUSIR) อยู่ทางใต้ของซัคคาราลงไปเล็กน้อย  แต่เสียหายค่อนข้างมาก

นักโบราณคดีอ่านตัวหนังสือเฮียโรกลิฟที่แกะสลักบนผนังภายในสุสาน  และ พบรูปสลักที่จารึกชื่อของเจ้าของสุสานได้ความว่า  เจ้าของคือนักบวชชื่อ วาห์ตี (WAHTYE)


(สุสานของนักบวช วาห์ตี – ภาพจากกูเกิล)

สันนิษฐานว่า   วาห์ตี น่าจะขโมยสุสานอันนี้มาจากพี่ชายของเขา  เพราะนักโบราณคดีพบว่า  พระนามของพระองค์ถูกแกะสลักซ้ำลงไปบนชื่อของคนอื่น ที่น่าจะเป็นพี่ชายของเขาเอง  

วาห์ตี เป็นนักบวชคนสำคัญของฟาโรห์ เนเฟอริคาเร เพราะเขาทำหน้าที่ดูแลทรัพย์สมบัติของวิหารซึ่งมีจำนวนมากมายมหาศาล   ดูแลเรือศักดิ์สิทธิ์ หรือที่เรียกว่า เรือนำส่งวิญญาณ (SOLAR BOAT)  ซึ่งเชื่อกันว่า  วิญญาณของฟาโรห์จะต้องใช้เรือลำดังกล่าวในการเดินทางไปสู่โลกหน้าเพื่อไปพบกับเทพโอไซริส  ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งคนตาย


(เรือที่ใช้ขนพระศพของฟาโรห์คูฟู ไปสู่วิหารในการทำมัมมี่  ซึ่งถูกฝังไปพร้อมกับมัมมี่ของฟาโรห์ ข้างๆพีระมิดองค์ใหญ่ เพื่อให้ฟาโรห์นำไปใช้ในการเดินทางไปสู่โลกหน้า -ภาพจากวิกิพีเดีย)

นอกจากนี้   ยังมีเทพของอียิปต์โบราณที่ชื่อ“เทพวาห์ตี”    ดังนั้น  เมื่อมีการบูชาเทพวาห์ตี  และมีการเอ่ยพระนามของเทพวาห์ตี  จึงเสมือนเป็นการแสดงความเคารพบูชาต่อนักบวชวาห์ตี ด้วย

ยุคอียิปต์โบราณ   ฟาโรห์ ถือเป็นชนชั้นสูงสุดของสังคม  ชนชั้นต่ำลงมา  แต่ในบางครั้งอาจจะถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับฟาโรห์มากก็คือนักบวช  เพราะนักบวชถือตนว่าเป็นผู้เชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์ กับ เทพเจ้าต่างๆเพียงคนเดียว

ผู้ใดที่ต้องการจะติดต่อสื่อสาร  ถามคำถาม  หรือ บนบานศาลกล่าวต่อเทพเจ้า  จะต้องกระทำผ่านนักบวชในวิหาร  และแน่นอนว่า  ผู้บนบานศาลกล่าวย่อมจะต้องมีสิ่งของมีค่ามาเป็นเครื่องเซ่นแก่นักบวชด้วย


(รูปสลักของนักบวชวาห์ตีในสุสานของเขา – ภาพจากกูเกิล)

นักบวชวาห์ตี จึงมีฐานะดีมากจนสามารถทำสุสานที่ดูมีเกียรติให้แก่ตัวเองได้ 

เมื่อเดินลงบันไดไม่กี่ขั้นเข้าไปในห้องสุสานของเนเฟอริคาเร  จะพบหลุมที่พื้นเรียงรายกัน 4 หลุม  ขุดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า  เจาะลึกตรงลงไปข้างล่างเรียกว่า ชาร์ฟ (SHAFT)  ปลายสุดของหลุมก็คือ  ห้องสำหรับเก็บศพที่เป็นมัมมี่เรียบร้อยแล้วของเจ้าของหลุม  และ บรรดาภรรยา และ ลูกๆของเขา

ลักษณะของห้องฝังศพแบบนี้คล้ายกับรูปแบบของ  หลุมฝังศพแบบ มาสตาบา  

โอกาสหน้า   ผมจะพาไปชมหลุมฝังศพแบบมาสตาบา ครับ

สนใจเดินทางเจาะลึกอียิปต์ 10 วัน 7 คืน กับผม  ระหว่างวันที่ 7-16 ธันวาคม  และ   8-17 กุมภาพันธ์ 2567  ติดต่อสอบถามได้โทร 0885786666  หรือ LINE ID – 14092498  รับจำนวนจำกัด 20 ท่านเท่านั้น

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .