ซอกซอนตะลอนไป (11 กันยายน 2558 )
“ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี”จากเด็กไร้บ้าน มาเป็นสะใภ้หลวง(ตอน 1)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
ระหว่างเดินทางในนอร์เวย สมาชิกของคณะทัวร์ของไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ ได้คุยกันเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งมาถึงเรื่องของผู้หญิงเก่งคนหนึ่ง ที่มีชีวิตผาดโผนพิสดารอย่างไม่น่าเชื่อ บังเอิญมีสมาชิกท่านหนึ่งเป็นนักอ่านตัวยงบอกว่า ผู้หญิงคนที่ว่านี้ได้เขียนหนังสืออัตชีวประวัติเอาไว้ มีชื่อว่า
“ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี สิริวรสาร”
ผมเกิดความสงสัยมากว่า ชีวิตแบบไหน ถึงเรียกว่า ชีวิตเหมือนฝัน
ในฐานะที่เป็นผู้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ภารตะ ทำให้ผมคิดว่า ดวงชะตาที่ผกผัน ผาดโผน พิสดารเหมือนฝัน ของคุณหญิงมณี ย่อมน่าสนใจในเชิงโหราศาสตร์อย่างยิ่ง
แต่กว่าจะตามหาหนังสือเล่มนี้จนเจอ ก็เล่นเอาเหนื่อย เพราะไม่มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือแล้ว ในที่สุดก็ได้เบอร์โทรศัพท์ของคุณเพชรชมพู ผู้ดูแลหนังสือเล่มนี้ที่ตีพิมพ์ในนามของ “มูลนิธิ มณี สิริวรสาร” และได้รับหนังสือชุดนี้มาในที่สุด
หนังสือ “ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี สิริวรสาร” เป็นหนังสือปกแข็งจำนวน 2 เล่ม เล่มแรกหนา 876 หน้า เล่มที่สองหนา 479 หน้า หนักประมาณ 2 กิโลกรัม พิมพ์ด้วยตัวหนังสือขนาดค่อนข้างเล็ก เนื้อหาแน่นปึ๊ก
คุณหญิงมณี เป็นใคร
ก่อนจะอ่านหนังสือเล่มนี้ ผมก็เหมือนกบในกะลาที่ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร ทั้งๆที่ท่านเป็นผู้มีชื่อเสียงในแวดวงไฮโซมาช้านาน แต่เมื่ออ่านหนังสือชุดนี้จบแล้วจึงได้ทราบว่า ท่านเป็นเจ้าของอาคารมณียา ข้างๆโรงเรียนมาแตร์แดร์อี และ เป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมดในบริเวณนั้น
ฟังดูคุณหญิงมณี ไม่น่าจะมีชีวิตที่ผาดโผน พลิกผัน ขนาดที่จะเอามาเขียนเป็นหนังสือ “ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี สิริวรสาร” ได้ นี่คือเหตุผลที่ผมอยากจะนำเรื่องราวในหนังสือมาเล่าให้ฟัง เผื่อว่าท่านผู้อ่านจะเกิดความสนใจลองหามาอ่านกันดู
คุณหญิงมณีเป็นคนมีชาติตระกูล เพราะมาจากตระกูลบุนนาคที่เก่าแก่ บิดาของท่านถือเป็นคนธรรมดาสามัญคนแรกที่ได้ไปศึกษาในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มหาวิยาลัยอ๊อฟซ์ฟอร์ด ขณะนั้นตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
คุณปู่ของคุณหญิงมณีก็คือ เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิดี (ท้วม บุนนาค) ซึ่งเป็นบุตรของ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประวูรวงศ์
ชีวิตบิดาของคุณหญิงมณี ก็ผาดโผนเอาเรื่องเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องพัวพันกับสตรีเพศจนทำให้ชีวิตกตกต่ำ ท้ายที่สุด ด้วยความที่เป็นสมาชิกของตระกูล “บุนนาค” จึงได้เข้ารับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ ไปเป็นทูตที่ญี่ปุ่น และ ทูตที่อังกฤษในเวลาต่อมา
มีตำแหน่งเป็น “มหาอำมาตย์ตรีพระยาราชานุประพันธ์”
แต่เนื่องจากรสนิยมในการใช้ชีวิตของบิดาท่านจะออกไปในทางสุขนิยม ขี้โอ่ ชอบใช้ชีวิตแบบโก้หรู และ มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามอย่างมาก ทำให้มีสุภาพสตรีชาวอังกฤษผู้มีฐานะดีคนหนึ่ง นามว่า ดอริส วินดั้ม ที่อายุเพียง 19 ปีมาติดพัน ทั้งๆที่บิดาของคุณหญิงมีอายุมากกว่ามิสดอริสเกือบ 2 รอบ
ทั้งสองต่างก็หลงใหลในกันและกันอย่างมาก จนหนีไปแต่งงานกันที่ฝรั่งเศส แม้บิดามารดาของฝ่ายหญิงจะไม่ยินยอม นอกจากนี้ บิดาของคุณหญิงยังส่งภรรยาเก่า พร้อมด้วยลูกๆที่ตามมาจากเมืองไทย เดินทางกลับบ้านอีกด้วย เป็นการหย่าขาดกันโดยปริยาย
บิดามารดาของ มิสดอริส โกรธท่านทูตอังกฤษผู้เป็นบิดาของคุณหญิงมณีเป็นอย่างยิ่ง จึงเขียนจดหมายฟ้องมายังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็น รัชการที่ 5 ที่ทูตกระทำตัวไม่เหมาะสม เนื่องจากมีภรรยาอยู่แล้ว แต่ไปติดพันหญิงอื่นอีก
บิดาของคุณหญิงมณี จึงถูกปลดจากตำแหน่งทูตทันที
ชีวิตเหมือนตกสวรรค์
แม้จะไม่มีรายได้แล้ว บิดา และ มารดาของคุณหญิง ก็ยังไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันในฝรั่งเศส ในย่านตากอากาศที่เรียกว่า Cote d’ Azur และ ใช้ชีวิตหรูหราที่นั่นหลายปี เงินทองหร่อยหรอ จนต้องหันไปเสี่ยงโชคในบ่อนการพนันเพื่อหวังจะหารายได้
สงครามโลกครั้งที่ 1 ระเบิดขึ้นในปีค.ศ. 1914 หรือปีพ.ศ. 2457 เศรษฐกิจตกต่ำทั้งในยุโรป และ อังกฤษ บิดาของมิสดอริส เป็นห่วงลูกสาว จึงยอมอภัยโทษให้ทั้งสอง และเรียกให้กลับมาที่อังกฤษ
ในปีพ.ศ. 2458 เด็กหญิงมณีก็ถือกำเนิดขึ้นในลอนดอน ขณะนั้น เธอมีพี่ชายอยู่แล้วคนหนึ่งอายุ 8 ขวบ ชื่อว่า อุทัย
การเงินของพ่อแม่เด็กหญิงมณี ย่ำแย่ แม้ว่ามารดาของเธอจะออกไปทำงานหาเงินด้วยก็ตาม ซ้ำเงินทองที่บิดาของ ดอริส ที่ได้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในยุโรปก็เสียหายหมดเพราะสงคราม จึงไม่อาจช่วยเหลือลูกสาวได้เลย
บิดาของเด็กหญิงมณี ยืมเงินจากทุกคนที่รู้จัก จนไม่สามารถจะหยิบยืมจากใครได้อีก เพราะไม่เคยจ่ายคืน จนคนที่รู้จักกันทุกคนต่างก็หลบหน้าบิดาของเธอทั้งสิ้น
แต่โชคดียังไม่ลาขาดไปเสียทีเดียว บิดาของเด็กหญิงมณีได้รับพระราชทานอภัยโทษจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และอนุญาตให้กลับเมืองไทยได้ และยังพระราชทานบ้านให้หลังหนึ่งในซอยแพรกบ้านใน ถนนสี่พระยา และยังมีเบี้ยหวัดบำนาญอีกด้วย
ครอบครัวอันประกอบด้วย บิดา มารดา พี่ชายอายุ 11 ขวบ และ เด็กหญิงมณี บุนนาค ซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 3 ขวบก็เดินทางกลับประเทศไทย
ดูเหมือนชีวิตของเด็กหญิงมณี จะดีขึ้นอย่างมาก เพราะมีบ้าน มีคนรับใช้ และ อาหารการกินอุดมสมบูรณ์
แต่โชคชะตาก็เล่นตลกอีก เมื่อมาถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ในหลวงรัชการที่ 7 จึงต้องปรับลดค่าใช้จ่ายของแผ่นดินลง เบี้ยบำนาญ รวมทั้งบ้านของบิดาก็ถูกริบคืนหลวง
ซ้ำบิดา ของเด็กหญิงมณีก็มาเสียชีวิตอีก อนาคตมืดมนมาก มารดา ซึ่งไม่ประสีประสาในการทำธุรกิจ แต่ก็ยังดันทุรังทำจนธุรกิจเจ๊ง จึงจัดการให้คุณหญิงเข้าเรียนโรงเรียนประจำหญิง โรงเรียนเซนต์ แมรี่ เอส พี จี ที่ตั้งอยู่ที่ถนนราชดำริ แล้วตัวเธอก็เดินทางทางกลับอังกฤษ เพื่อหาช่องทางต่อไป
จากนักเรียนโรงเรียนประจำที่เก็บค่าเล่าเรียนแพงของคุณหญิง ชีวิตของเด็กหญิงมณียังจะต้องหักเหอีก
รออ่านตอนต่อไปนะครับ
(สำหรับท่านที่ต้องการซื้อหนังสือชุดนี้ ติดต่อได้ที่เบอร์ 099 425 9112 คุณเพชรชมพู รายได้จากการจำหน่ายหนังสือจะเข้ามูลนิธิ มณี สิริวรสาร เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ยากจน) )
สนใจจะซื้อหนังสือแต่ไม่สามารถติดต่อได้ตามเบอร์ที่ให้ไว้ค่ะ รบกวนไม่ทราบว่าพอจะมีช่องทางติดต่ออื่นๆมั้ยคะ
ขอโทษที่ตอบกลับช้ามากครับ
ติดต่อเบอร์โทรของผมได้เลยครับ 0885786666
ขอบคุณครับ