ซอกซอนตะลอนไป (10 กรกฎาคม 2558 )
ว่าด้วย ภูมิ-เศรษฐศาสตร์ ของ กรีซ(ตอน 3)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
หายนะทางเศรษฐกิจของประเทศกรีซ ชุดที่สองที่ตามหลังการใช้จ่ายเงินที่ไม่ก่อให้เกิดผลผลิต ด้วยการทุ่มเงินจำนวนมหาศาลลงไปในการซื้ออาวุธ ก็คือแนวคิด “เห็นช้างขี้ อยากขี้ตามช้าง”
เป็นที่ทราบกันดีว่า ชาวกรีซโบราณเป็นผู้ให้กำเนิด “กีฬาโอลิมเปียด” ขึ้นมา ซึ่งถูกยกเลิกไปในภายหลังเมื่อศาสนาคริสต์เริ่มมีอิทธิพลในโลกเมดิเตอร์เรเนียน
สาเหตุของการยกเลิกกีฬาโอลิมเปียด ผมจะนำมาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป
หลังจาก กีฬาโอลิมเปียด เงียบหายไปจากโลกเป็นเวลาพันกว่าปี จนกระทั่งปีค.ศ. 1896 จึงได้มีการรื้อฟื้นการแข่งขันกีฬาโอลิมเปียดโบราณขึ้นมาใหม่ แล้วเรียกชื่อว่า กีฬาโอลิมปิค
หลังจากนั้น ก็มีการจัดการแข่งขันกีฬาประเภทนี้ทุกๆ 4 ปี โดยหมุนเวียนไปจัดในประเทศต่างๆตามแต่ประเทศใดจะเสนอตัว และ ได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมของคณะกรรมการโอลิมปิดสากล
กีฬาโอลิมปิค หมุนเวียนไปจัดในประเทศต่างๆ จนมาถึงปีค.ศ. 1996 หรือ ปีพ.ศ. 2539 อันเป็นกีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 26
ประเทศกรีซ คิดว่า กีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 26 จะเป็นวาระของการครบรอบ 100 ปีของกีฬาโอลิมปิคสมัยใหม่ และคิดว่า ตัวเองสมควรจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาครั้งนี้
โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
อย่าลืมว่า การขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคนั้น จะต้องทำกันล่วงหน้าอย่างน้อย 8 ถึง 12 ปีก่อนปีการแข่งขัน นั่นหมายความว่า กรีซต้องเสนอตัวเข้าแข่งขันเพื่อเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1984 หรือ ปีค.ศ. 1986
การเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคนั้น ต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล และเป็นงบประมาณประเภทสูญเปล่า เพราะหากไม่ได้รับการคัดเลือก เงินทุนที่ลงไปก็จะละลายหายวับไปกับตา
ด้วยความไม่พร้อม(จริงๆ)ของประเทศกรีซ จึงทำให้เจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคครั้งที่ 26 ตกไปเป็นของเมืองแอตแลนตา ประเทศสหรัฐอเมริกา
หลายปีก่อนกีฬาโอลิมปิคครั้งที่ 26 ผมบังเอิญมีโอกาสนำคณะทัวร์ของบริษัท ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ ไปเที่ยวประเทศกรีซบ่อยครั้งมาก ก็ยังรู้สึกแปลกใจไม่ได้ว่า ประเทศกรีซเอาอะไรไปต่อสู้ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิค
ในขณะนั้น โรงแรมของกรีซมีจำนวนไม่มากนัก ยิ่งในระดับ 5 ดาวแทบจะนับโรงแรมได้ ซ้ำโรงแรมระดับห้าดาวในกรุงเอเธนส์ หากเทียบกับโรงแรมในมาตรฐานเดียวกัน และ ในราคาที่ใกล้เคียงกัน โรงแรมในประเทศกรีซถือว่า แย่ที่สุดในยุโรป
การจราจรในเอเธนส์ก็แย่สุดๆ รถติดกันแทบไม่ขยับ
ซ้ำสนามที่จำเป็นต้องใช้ในการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆก็ยังไม่พร้อม หรือ ยังไม่มี แทบจะต้องสร้างขึ้นมาใหม่หมด
นั่นหมายถึง ต้องลงทุนด้วยเงินงบประมาณจำนวนมหาศาล ซึ่งยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า รายได้จากการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคครั้งที่ 26 นี้ จะมากน้อยแค่ไหน และคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่
แต่ความหน้าใหญ่ของกรีซ ก็ทำให้หน้ามืดตามัวเดินหน้าต่อไป
ในที่สุด หลังจากพลาดหวังการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิค ปี ค.ศ. 1996 ประเทศกรีซยังคงเสนอตัวชิงการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคครั้งต่อไป คือ โอลิมปิคประจำปี ค.ศ. 2000 ซึ่งเป็นครั้งที่ 27
แต่ก็พ่ายแพ้ให้แก่ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
กรีซยังไม่ยอมแพ้ เสนอตัวเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปอีก จนในที่สุดก็ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคประจำปี ค.ศ. 2004 ซึ่งเป็นครั้งที่ 28
ลองหลับตานึกภาพดูนะครับว่า กรีซ ต้องหมดเงินเฉพาะค่าใช้จ่ายในการทำประชาสัมพันธ์ ค่าใช้จ่ายในการทำพรีเซนต์เทชั่น ค่าใช้จ่ายในการล็อบบี้ประเทศสมาชิกอื่นๆ และ อีกสารพัดที่จะต้องทำตามเงื่อนไขของคณะกรรมการโอลิมปิคสากล
การได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ประจำปี ค.ศ. 2004 ของกรีซนั้น กรีซต้องดิ้นรนต่อสู้แข่งขันมาไม่น้อยกว่า 12 ปี เป็น 12 ปีที่ถลุงเงินงบประมาณของประเทศจำนวนมหาศาล
ชาวกรีซ ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจกันทั้งประเทศ เพราะเหมือนกับว่า วันเวลาแห่งความรุ่งเรืองในอดีตกาวที่ยาวนานกว่า 2 พันปีที่แล้ว ได้กลับมาลุกโชติช่วงชัชวาลอีกครั้ง โดยหารู้ไม่ว่า ประเทศกำลังก้าวเท้าเข้าไปหาหลุมดำแห่งหายนะที่รออยู่เบื้องหน้า
ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะความโง่เขลา ความหยิ่งยะโส ความขี้เกียจ ของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐทุกหน่วย เป็นตัวทำให้โอกาสที่ประชาชนทุกคนรอคอย ด้วยความตื่นเต้นดีใจที่จะได้เฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และ รุ่งเรืองของชาวกรีซในอดีต กลายเป็นโอกาสที่จะต้องจัดงานศพของประเทศในเวลาต่อมา
ในบทต่อไป ผมจะเล่าให้ฟังถึงสาเหตุที่ทำให้กีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 28 กลายเป็นหายนะของชาติกรีก ก่อนที่จะมาถึงการตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถจ่ายเงินกู้คืนให้แก่เจ้าหนี้ได้ในวันนี้
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ