ซอกซอนตะลอนไป (28 สิงหาคม 2558 )
อิตาลี เมืองหลวงของโลกศิลปะ(ตอน 2)
โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
รูปสลักเลาคูน(LAOCOON) หรือบางทีก็เรียกว่า เลาคูน และ ลูกชาย(LAOCOON AND HIS SONS) บางทีก็เรียก ครอบครัวเลาคูน(LAOCOON GROUP) นอกจากมีความสวยงามในแง่ของศิลปะ และ ความลงตัวของสัดส่วนแล้ว เรื่องราวเบื้องหลังรูปสลักรูปนี้ก็ยังน่าสนใจมากทีเดียว
(ภาพสลักเลาคูน)
เรื่องราวเบื้องหลังรูปสลัก “เลาคูน” ก็คือ เมื่อตอนสงคราม “ทรอย”(TROJAN WAR) ที่พวกสปาร์ตา ยกทัพไปรบกับเมืองทรอย ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลอีเจียนในประเทศตุรกีในปัจจุบัน
(แผนที่แสดงที่ตั้งของ กรุงทรอย ลูกศรชี้ขวามือ และ เมืองสปาร์ต้า ลูกศรที่ซ้ายมือ)
ทั้งสองฝ่ายรบกันอยู่นาน 10 ปี โดยไม่แพ้ชนะกัน ในที่สุด พวกกรีกสปาร์ต้าก็ออกอุบายว่า จะเลิกทำสงคราม และจะยกทัพกลับบ้าน โดยจะมอบของขวัญให้แก่ชาวเมืองทรอยชิ้นหนึ่ง
ม้าไม้
(ม้าไม้เมืองทรอย ภาพจากภาพยนตร์)
พวกสปาร์ต้า วางแผนร้ายด้วยการเอาทหารกรีกจำนวนหนึ่งแอบซ่อนไว้ในม้าไม้ ซึ่งจะสามารถเข้าไปในกรุงทรอยได้อย่างสบาย และ แอบเปิดประตูเมืองให้ทหารที่เหลือบุกเข้าไปในเมืองได้
ชาวเมืองทรอยส่วนใหญ่พอใจกับม้าไม้ คงเพราะจะเหนื่อยในการทำสงครามมานาน ยกเว้นคนคนเดียวที่เห็นต่างก็คือ นักบวชที่ชื่อ เลาคูน(LAOCOON)
เลาคูน พยายามแจ้งเตือนพี่น้องชาวทรอยให้ตระหนักว่า ม้าไม้ก็คืออุบายอย่างหนึ่งของชาวสปาร์ต้า เป็นกลศึกที่ไม่ควรไว้วางใจ และบอกให้ชาวทรอยอย่าได้รับม้าไม้นี้เข้ามาในเมือง
แต่ดูเหมือนว่า ชะตากรรมจะชักนำให้ชาวทรอยไปสู่ความหายนะอย่างหนีไม่พ้น จึงไม่มีชาวทรอยคนใดฟังคำเตือนของเลาคูนเลย
แต่เราต้องทราบก่อนว่า สงครามแห่งทรอยนั้น แท้จริงเกิดจากการถือหางของเทพีบนสวรรค์ โดยเฉพาะเทพีเฮอรา มเหสีของเทพซุส ที่ถือหางทางฝ่ายสปาร์ต้า
เรื่องของเรื่องก็คือ เหล่าเทพีต่างก็แย่งกันจะเป็นเจ้าของแอปเปิลทองคำ ที่เทพเจ้าแห่งความแตกแยก ได้โยนลงมาในที่ประชุม แล้วบอกว่า เทพีที่สวยที่สุดในโลก จะได้เป็นเจ้าของแอปเปิ้ลทองคำนี้
เทพีที่แย่งกันจะเป็นเจ้าของแอปเปิ้ลทองคำก็คือ เทพี อเธน่า(ATHENA) , เทพีแอพโพรไดท์(APHRODITE) หรือ วีนัส และ เฮอร่า(HERA) มเหสีของเทพซุส
(เทพี อเธนา เทพีแห่งภูมิปัญญา ภาพจากอินเตอร์เน็ต )
(เทพี แอพโพรไดท หรือ วีนัส เทพีแห่งความรัก ผลงานของ บ๊อตติเชลลี ปัจจุบันจุดแสงที่พิพิทภัณฑ์อุฟฟิซิ ฟลอเร้นซ์ )
(เทพีเฮอรา มเหสีของเทพซุส ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
เมื่อตกลงไม่ได้ว่า ใครเป็นคนที่สวยที่สุด ทั้งสามจึงพากันไปหาหนุ่มเลี้ยงแกะที่มีนามว่า ปารีส ให้ช่วยตัดสินว่า ใครเป็นผู้ที่สวยที่สุดที่จะได้เป็นเจ้าของแอปเปิ้ลนี้
เทพีทั้งสามต่างก็ติดสินบนปารีสกันอุตลุต แต่ปารีส ถูกใจสินบนที่เทพีวีนัสสัญญาว่าจะให้ ก็คือ ผู้หญิงที่สวยที่สุดในจักรวาล
ทำให้ปารีส ซึ่งเป็นโอรสของกษัตริย์แห่งทรอย ถูกชักนำด้วยโชคชะตา หรือ ด้วยการวางแผนของเทพีวีนัสก็สุดจะเดา ได้แอบขโมย เฮเลน มเหสีของกษัตริย์แห่งสปาร์ต้า แล้วนำกลับมาที่ทรอย จนทำให้เกิดสงครามยืดเยื้อ 10 ปี
แน่นอนว่า เทพีที่เกิดความแค้นต่อเจ้าชายปารีส และชาวเมืองทรอยก็คือ เทพีเฮอรา ย่อมต้องการปิดปากเลาคูน เพราะกลัวว่า หากชาวทรอยเกิดเชื่อเลาคูนขึ้นมา แผนการม้าไม้ก็จะล้มเหลว
เทพีเฮอรา จึงส่งอสรพิษร้ายเข้ามาสังหาร นักบวชเลาคูน พร้อมด้วย ลูกชายของเขาอีก 2 คน คือ แอนตีฟานเทส(ANTIPHANTES) และ ธิมเบรอุส(THYMBRAEUS)
จากรูปสลัก เราคงสามารถบอกได้ทันทีว่า ลูกสองคนของเลาคูน คนไหนเป็นคนโต คนไหนเป็นคนเล็ก นี่คือวิธีการสื่อสารบอกเล่าของศิลปินในยุคโบราณ
นี่เป็นผลงานปฎิมากรรมเพียงชิ้นเดียว ที่ผมหยิบยกขึ้นมาเล่าให้ฟัง ซึ่งหากร่วมเดินทางไปกับทัวร์ ฟ้าวันใหม่ ร่วมกับ ไวท์ เอลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ ระหว่างวันที่ 18 ถึง 25 พฤศจิกายน นี้ จะได้ชมผลงานที่สวยงามของศิลปินดังอีกมากมาย
สนใจสองรองที่นั่งได้ที่ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ 02 651 6900 หรือ 088 578 6666
สัปดาห์หน้า ผมจะนำเรื่องขุนทรัพย์ศิลปะขอวาติกันมาเล่าต่อครับ
สวัสดี
