มัมมี่คืนชีพ(ตอน7)

ซอกซอนตะลอนไป                           (15 ตุลาคม 2566)

มัมมี่คืนชีพ(ตอน7)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

ตอนที่แล้ว   ผมค้างเรื่อง ประตูปลอมในสุสานของคาเกมนิที่ใช้งานไม่ได้จริง   แล้วชาวอียิปต์โบราณเขาสร้างประตูปลอมเอาไว้ทำไม

ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า   มนุษย์มีธาตุที่เป็นองค์ประกอบอยู่ 5 ชนิด   ความหมายของแต่ละอย่างมีรายละเอียด หรือคำบรรยายที่ค่อนข้างจะยากในการแยกแยะ  บางความหมายเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจ  แต่ผมจะพยายามอธิบายให้ฟังง่ายๆคือ

คา หรือ เค ซึ่งก็คือ ร่างกายเนื้อ และ วิญญาณที่อยู่กับร่างกายเนื้อ  ,  บา  หมายถึง  วิญญาณของร่างกายเนื้อแต่สามารถโบนบินไปไหนมาไหนได้  , อิบ หมายถึง  หัวใจ  และ อารมณ์ของร่างกาย  และ เป็นที่อาศัยของวิญญาณ ,  เรน  หมายถึง ชื่อที่ถูกตั้งให้แก่คนๆนั้นตั้งแต่ตอนเกิด  ,  ชุต  หมายถึง  เงา


(สัญลักษณ์ของ “คา”)

ด้วยเหตุที่ คา เป็นที่อาศัยของวิญญาณทั้งสองชนิด คือ  คา  และ  บา   หมายความว่า   วิญญาณทั้งสองต้องการกายเนื้อเพื่อเป็นบ้านของตัวเอง

จึงเป็นแนวคิดที่จะต้องทำมัมมีของผู้ตายไว้   เพื่อให้วิญญาณทั้งสองมีที่อาศัย   หากปราศจากร่างกายที่เป็นมัมมี่แล้ว   วิญญาณก็จะไม่สามารถเดินทางไปสู่โลกหน้าได้


(บา  หมายถึงวิญญาณที่สามารถโบยบินไปไหนมาไหนได้  จึงอยู่ในรูปของนก ศรีษะเป็นคน)

ในภาษาเฮียโรกลิฟ สัญลักษณ์ของ  คา  ก็คือแขนสองข้างที่ยกขึ้น   ในขณะที่  บา  จะมีสัญลักษณ์เป็นนก ที่สามารถโบยบินไปไหนมาไหนได้  โดยนกตัวนั้นจะมีใบหน้าเป็นของผู้ตาย 

คา จะเป็นวิญญาณที่อยู่กับที่  อยู่กับมัมมี่ของผู้ตาย   เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นมัมมี่ของคนๆนี้  แต่  บา  จะโบยบินไปออกไปในที่ต่างๆ  เพื่อหาอาหารมาให้ร่างกายของมัมมี่ได้บริโภค   หากไม่มีอาหารให้แก่มัมมี่แล้ว   มัมมี่อาจจะตายได้

จึงต้องมีประเพณีการถวายอาหารชนิดต่างๆ เพื่อเซ่นไหว้มัมมี่ให้มีอาหารเพื่อบริโภค

ความละเอียดอ่อนทางด้านแนวคิดคิดของชาวอียิปต์โบราณก็คือ    เมื่อ บา จำเป็นต้องโบยบินออกไปหาอาหารมาบริโภค   แต่มัมมี่ถูกเก็บอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมใต้ดิน  ไม่มีทางออก  แล้ว บา จะออกไปหาอาหารได้อย่างไร 


(ห้องที่มีประตูปลอมอยู่บนผนัง)

นักบวชจึงต้องสร้าง “ประตูปลอม” ตรงจุดที่อยู่เหนือช่องสี่เหลี่ยมที่ขุดตรงขึ้นมาจากห้องเก็บศพมาสู่ระดับพื้นดิน  เพื่อว่า   เมื่อวิญญาณ  หรือ “บา” โบยบินขึ้นมา   ก็จะมองเห็นว่า  มีประตูที่สามารถโบยบินออกไปได้   แม้ว่าจะเป็นประตูที่ไม่สามารถเปิดได้ก็ตาม

แต่ บาเป็นวิญญาณ  จึงสามารถบินทะลุผ่านประตูหลอมออกไปได้  และกลับเข้ามาที่ห้องเก็บศพทางประตูปลอมนี้อีกเช่นกัน


(ภาพสลักที่บรรยายถึงคนรับใช้กำลังขนอาหารและสิ่งเซ่นไหว้เข้าไปในสุสาน)

ภายในสุสานของคาเกมนิ จะมีรูปสลักที่บรรยายภาพของบรรดาคนใช้ชายหญิง  ช่วยกันแบกหามข้าวของเครื่องใช้ อุปโภค บริโภค ซึ่งเชื่อกันว่า  บรรดาคนใช้เหล่านี้ช่วยกันขนเข้ามาไว้ในสุสาน ในบริเวณห้องที่มีประตูปลอม  เสมือนเป็นการเซ่นไหว้ของกินให้แก่ผู้ตาย  

แต่ขนาดของห้องก็ไม่ใหญ่มาก  คงจะใส่สิ่งของที่จะไหว้ผู้ตายได้ไม่มากนัก  แล้ววิญญาณของผู้ตายจะทำอย่างไรในเดือนถัดๆไป  ปีถัดๆไป  หรือ หลังจากสมาชิกผู้ใกล้ชิดผู้ตายได้ล้มหายตายจากไป

เรื่องนี้   ชาวอียิปต์โบราณแก้ไขปัญหาโดยไม่ยากนัก  ด้วยการใส่ตัวเลขกำกับลงไปว่า  ของแต่ละอย่างที่เซ่นไหว้มีจำนวนเท่าไหร่   เช่น จะไหว้วัว 1000 ตัว  ก็ใส่ตัวเลข 1000 ตัวกำกับลงไป  แค่นี้   วิญญาณของผู้ตายก็ได้วัว 1000 ตัวไป

ก็คงจะคล้ายๆกับพิธีกงเต็กของประเพณีจีนในประเทศไทย  ที่แม้กระทั่งสามารถส่งไอโฟนรุ่นล่าสุดไปให้ก็ยังได้  

สนใจเดินทางแบบเจาะลึกอียิปต์ 10 วัน 7 คืน กับผม  ระหว่างวันที่ 7-16 ธันวาคม  และ   8-17 กุมภาพันธ์ 2567  ติดต่อสอบถามได้โทร 0885786666  หรือ LINE ID – 14092498  รับจำนวนจำกัด 20 ท่านเท่านั้น  ปิดกรุ๊ปล่วงหน้า 30 วันก่อนเดินทาง

               พบกันใหม่สัปดาห์หน้า

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .