ทฤษฎีพิสวงอียิปต์โบราณ (ตอน4-จบ)

ซอกซอนตะลอนไป                           (31 ธันวาคม 2566)

ทฤษฎีพิสวงอียิปต์โบราณ (ตอน4-จบ)

โดย   เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ

หลังการตายของท่านเอิร์ล แห่ง คาร์นาร์วอน  เรื่องร่ำลือเกี่ยวกับอาถรรพณ์คำสาปของฟาโรห์ตุตันคามุนก็แพร่ขยายมากขึ้นเรื่อยๆ  ขอนำเรื่องเล่าต่างๆมาเรียบเรียงให้ฟังกัน  

เล่ากันว่า   ก่อนหน้าคาร์นาร์วอนจะเสียชีวิต 2 สัปดาห์  มารี คอเรลลี(MARIE CORELLI) ได้เขียนจดหมายไปตีพิมพ์ในแม็กกาซีน ชื่อ NEW YORK WORLD ซึ่งเข้าใจว่าเป็นแม็กกาซีนเล็กฉบับหนึ่ง  เธอได้พูดถึง “การลงโทษที่ร้ายแรง” จะมีผลต่อผู้รุกรานสุสานของฟาโรห์

ซึ่งหมายถึง   สุสานแห่งนี้  ตกอยู่ภายใต้คำสาปของฟาโรห์ที่จะมีผลรุนแรงต่อผู้รุกล้ำเข้าไปในสุสานของพระองค์


(สุสานของตุตันคามุน หมายเลข KV62 ที่มีกำแพงสี่เหลี่ยมล้อมรอบ – ภาพจากวิกิพีเดีย)

นอกจากนี้  ยังมีการร่ำลือว่า  อาร์เธอร์ วีกัลล์(AUTHUR WEIGALL) ซึ่งเป็นผู้สือข่าวคนหนึ่งที่ได้เข้าไปในสุสานของตุตันคามุนด้วยได้เล่าว่า   คาร์นาร์วอน หัวเราะอย่างมีความสุข  และ  ได้พูดล้อเล่นกับบรรดาคนที่เข้าไปด้วยกันในสุสาน  

วีกัลล์ บอกว่า  เขาได้กระซิบบอกกับ เอ็ช วี มอร์ตัน(H.V.MORTON)  ผู้สื่อข่าวอีกคนหนึ่งว่า

“ผมให้เวลา(คาร์นาร์วอน) อีก 6 สัปดาห์ที่จะยังมีชีวิตอยู่”


(คนงานช่วยกันขนทรัพย์สมบัติของฟาโรห์ตุตันคามุนอย่างระมัดระวังเต็มที่ เพื่อเดินทางไปยังเมืองลักซอร์ ซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำไนล์-ภาพจากวิกิพีเดีย)

แม้ว่า   คาร์นาร์วอนจะเสียชีวิตหลังจากการเข้าไปในสุสานกว่า 12-14 สัปดาห์ก็ตาม   แต่ผู้เสพข่าวส่วนใหญ่ก็มักจะปักใจเชื่อแบบนั้นไปแล้ว  

หลังการเสียชีวิตของ คาร์นาร์วอน  อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์(ARTHUR CONAN DOYLE) ผู้เขียนนวนิยายสืบสวนชื่อดังเรื่อง เชอร์ล็อค โฮล์มส์  ได้ออกมาให้ความเห็นว่า  การตายของคาร์นาร์วอน เป็นผลมาแต่คำสาปของนักบวชผู้ดูแลรักษาสุสานของตุตันคามุนจากอีกมิติหนึ่งมาสู่โลกปัจจุบัน

เมื่อคนอย่าง อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์ ให้ความเห็นแบบนี้  ผู้คนก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อถือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   ข่าวลือจึงถูกโหมกระพือออกไปราวกับไฟไหม้ป่า

ประกอบกับข่าวลือว่า   บรรดาคนงานจำนวนมากที่เข้าไปช่วยกันขนทรัพย์สมบัติของฟาโรห์ออกมาจากสุสาน  ทะยอยล้มตายไปทีละคนสองคน  ด้วยอาการลึกลับ  หรือ จากโรคที่หาคำอธิบายไม่ได้  แต่จะเริ่มจากอาการไข้สูง  แล้วพัฒนากไปเป็นโรคปอดบวม  และ เสียชีวิตในเวลา 

               ไม่มีข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตเหล่านี้ตายด้วยโรคอะไร  อาจเป็นเพราะคนเหล่านี้เป็นคนงานชาวอียิปต์ที่เข้ามาช่วยเหลือแบบเฉพาะกิจ


(คนงานกำลังขนรูปสลักทำด้วยไม้ของตุตันคามุนออกมา)

               คำสาปของฟาโรห์ตุตันคามุน จึงยังคงหลอกหลอนผู้คนอยู่เรื่อยเสมอมา

               จนกระทั่ง  วิทยาการสมัยใหม่มีความลึกซึ้งมากขึ้น  และ  การศึกษาที่ลงลึกไปหาเหตุผลการตายจากคำสาปของฟาโรห์  และมีข้อสันนิษฐาน และ ข้อสรุปว่า

               ประการแรก   เป็นไปได้ว่า   ห้องที่ถูกปิดสนิทมานานกว่า 3300 ปี โดยไม่มีอากาศถ่ายเทเลย  จึงเป็นไปได้ว่า  แบคทีเรีย และ เชื้อโรคชนิดต่างๆอาจจะเจริญเติบโตขึ้นอย่างไม่คาดคิด  เมื่อมนุษย์ชุดแรกเข้าไปสัมผัสกับอากาศดังกล่าว  ก็อาจจะส่งผลต่อปอด  หัวใจ   และ  โลหิตของเขาได้

               กลายเป็นมัจจุราชที่มองไม่เห็น


(ช่อดอกไม้ที่แห้งสนิทที่เชื่อกันว่า  เป็นทูตมรณะของคนงานที่เข้าไปขนทรัพย์สมบัติออกมา)

               ในวันแรกที่เข้าไปในสุสานแห่งนี้   นักโบราณคดีพบกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่ที่แห้งสนิทจนกรอบยุ่ยสลายแล้ววางอยู่

               ผู้เชี่ยวชาญเรื่องดอกไม้บอกว่า  ดอกไม้ชนิดนี้ตอนที่ยังสดจะไม่ก่อปัญหาใดๆกับมนุษย์   แต่เมื่อมันแห้งสนิท  เกสรของดอกไม้จะเป็นเสมือนยาพิษที่ร้ายแรง  หากใครบังเอิญสูดละองเกสรนี้เข้าไป

               ซึ่งในวันนั้น  เมื่อคนงานเดินเข้าเดินออกในสุสาน  ทำให้เกิดอากาศหมุนวน  และ  ละลองเกสรที่ว่านี้ก็ล่องลอยไปในอากาศ  ใครโชคร้ายที่สูดเอาละอองเกสรนี้เข้าไป  ก็อาจเสียชีวิตได้

               สรุปแล้ว   คำสาปของฟาโรห์  จึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เมื่อเอาแต่งเติมเหมือนขนมจีนผสมกับน้ำยา  จึงเป็นเรื่องสนุกที่สยองขวัญสำหรับคนสายมูได้เป็นอย่างดี

               อันที่จริงยังมีนิทานสยองขวัญเกี่ยวกับคำสาปของฟาโรห์อีกมากมาย  แต่เอาไว้แค่นี้ก่อนนะครับ

ท่านที่สนใจร่วมเดินทางเจาะลึกอียิปต์ 10 วัน 7 คืน ระหว่างวันที่ 7-16 กุมภาพันธ์ 2567  ซึ่งเป็นทริปสุดท้ายของฤดูกาลนี้ กับผม  สามารถติดต่อสอบถามและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร 0885786666 หรือ LINE ID – 14092498  จะปิดกรุ๊ปวันที่ 6 มกราคมนี้ครับ

               สวัสดีปีใหม่ครับ   พบกันใหม่ปีหน้า 2567 ครับ

Posted in ซอกซอนตะลอนไป โดย เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ and tagged , , , .